10 ข้อดี - ข้อเสีย การเป็นแอร์โฮสเตส สจ๊วต ที่ต้องรู้
ข้อดี ข้อเสีย การเป็นแอร์โฮสเตส
ก่อนที่จะลงมือสมัครแอร์ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ข้อดี และ ข้อเสีย การเป็นแอร์โฮสเตส ไว้ก่อน เพื่อเป็นเหตุผลในการตัดสินใจว่า เราพร้อมไหมที่จะ ตัดสินใจกับที่จะมาทำงานในอาชีพนี้ ซึ่งต่อไปในอนาคต เราจะได้ไม่มาเสียใจภายหลังว่า รู้อย่างนี้ ไม่น่าเลย เพราะเราได้รับรู้ ทั้งข้อดีและข้อเสียของการมาเป็นแอร์โฮสเตส ไว้อยู่ก่อนแล้ว
รายได้สูง
เงินเดือนแอร์ บอกเลยว่าสูงค่ะ ไม่ว่าจะทำงานสายการบินไหน ได้เป็นแสนไหม อันนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินที่น้องๆทำ อย่างเช่น เงินเดือนแอร์การ์ต้า เงินเดือนแอร์ emirate พวกนี้เป็นสายการบินแขก จะได้เงินเดือนแสน กว่าแน่ๆ แถม Tax Free ด้วยนะคะ
ส่วนสายการบินอื่นๆ ก็อาจจะได้ น้อยลงมาหน่อย แต่บอกเลยว่า แทบจะทุกสายการบิน ได้ 50,000 บาท อัพแน่นอน
ได้เที่ยวทั่วโลก
อีกข้อดีของการเป็นแอร์ คือได้เที่ยวทั่วโลกจริงๆ เมืองแปลกๆ เมืองไหนๆ ที่ไม่เคยได้ยินชื่อ หรือไม่คิดจะไป ก็ได้ไป แถมหลงรัก กลับไปซ้ำเอง (ไปเที่ยวเอง) ก็มี
โดยเฉพาะสายการบินที่รูท บินทั่วโลก อย่าง สายการบินการ์ต้า หรือ เอมิเรตส์ แล้ว แข่งกับเปิดรูทใหม่ๆ ตอนนี้กว่า 180 Destinations ทั่วโลก
อีแอร์ ก็ตาลุกเลย จะต้องทำงานกี่ปีเนี่ย ถึงจะตามไปเก็บ รูทที่สายการบินเปิดรูทใหม่ๆ ได้หมด
มีวันหยุดตลอดเดือน
เป็นแอร์ไม่ต้องทำงาน ตลอดทุกวัน ทั้งเดือนนะจ๊ะ เราจะบินตามตารางบิน ซึ่งเป็นกฏหมายว่า สายการบิน จะไม่ให้ตารางบิน ที่ลูกเรือต้องบินติดๆกันเป็นอาทิตย์ ดังนั้น ก็จะเป็น ทำงาน 1-2 วัน หยุด 1 วัน ทำงาน4 วันติด หยุด 4 วัน คือจะทำๆ หยุดๆ แบบนี้ ตลอดทั้งเดือน จึงทำให้รวมๆกันภายใน 1 เดือน มีวันหยุดตลอด ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะ อยู่พักสบายๆ ที่บ้านพัก หรือ จะเลือกบินไปเที่ยวประเทศใกล้ๆ ช่วงวันหยุดได้
ประกันสุขภาพทั่วโลก
เรื่องนี้เป็นข้อดีของการเป็นแอร์ แบบคงจะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว เพราะว่าสายการบินเค้าดูแลดี๊ ดี จะเจ็บป่วย เป็นอะไรมา เพียงพกบัตรประกันสุขภาพของบริษัท ไปโรงพยาบาล ก็ไม่ต้องจ่ายแล้ว โดยเฉพาะ ที่โดฮา แค่ยื่นบัตรก็จบเลย ซึ่งบัตรประกันสุขภาพนี้ สามารถใช้ได้ทั่วโลก พี่เคยไปป่วยที่ญี่ปุ่น ก็ไม่เสียเงินเลยสักบาทค่ะ เรียกว่า ไม่ต้องกังวลใจเลย
จัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
ในแต่ละเที่ยวบิน มักจะมีปัญหามาให้จัดการแก้ไข อยู่ตลอด เพราะด้วย ทรัพยากรที่จำกัด เวลาจำกัด เจอปัญหาอะไร ต้องจัดการให้ได้ ว่าอะไรสำคัญ อะไรต้องมาก่อน จึงจะเห็นได้บ่อยๆว่า ตอนสัมภาษณ์แอร์นั้น มักจะมีการยกตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆ มาถามผู้เข้าสัมภาษณ์เสมอ ก็เพราะว่า เวลาทำงานจริงนั้น เราไม่รู้เลยว่าเราจะเจอกับปัญหาบ้าง ทำให้ในชีวิตประจำวัน เจออะไรก็ชิวไปเลย จัดการได้หมด
ได้พบปะผู้คน
โอกาสได้พบปะแน่นอนว่าเป็นข้อดี สำหรับอาชีพนี้ บางทีได้พบคนดังๆ ดารา นักร้องที่มีชื่อเสียง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การที่เราได้พบผู้คน จากหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายวัฒนธรรม มักจะทำให้เราเปิดใจมองโลก ในมุมที่กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ แอร์หลายๆ คนก็เจอ สามี กันบนไฟล์ก็เยอะแยะ แต่ขอบอกก่อนว่า มันไม่ได้เจอผู้โดยสารมาจีบกันทุกคน นะคะ
ได้ซื้อของชิ้นใหญ่ๆ
อย่างซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อคอนโด สำหรับอาชีพแอร์ ถ้ารู้จักวางแผนการเงินที่ดี บอกเลยว่า เราสามารถทำได้ค่ะ บางคน อาจมีรถคันแรก หรือ บ้านหลังแรก เพราะอาชีพนี้เลยก็มี หรือ แอร์บางคน เก็บเงินที่ได้จากการทำงาน ไปลงทุนทำธุรกิจ ต่อยอด ก็มีมากมายเช่นกัน ถือเป็น อาชีพ ที่ได้เงินเร็ว ติดจรวด ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน ดังนั้น คิดจะทำอะไร วางแผนให้ดี ตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปทำงานเลยค่ะ
คนนับหน้าถือตา
สำหรับประเทศไทย ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส ถือเป็นงานที่คนให้ความสนใจ และ ให้การยอมรับในวงสังคม เพราะเป็นอาชีพ ที่มีเกรียติ คนสมัครเข้าเป็นจำนวนมาก แต่ รับคนเข้าทำงานในจำนวนที่น้อย ดังนั้นเมื่อเราได้ทำงานนี้ จึงได้รับคำยกย่อง ได้แต่งชุดยูนิฟอร์ม สวยๆ เดินลากกระเป๋าในแอร์พอร์ท ยิ่งทำงานสายการบินดังๆ บางครั้งก็มีคนมาขอถ่ายรูปด้วยเลยก็มีนะคะ
ส่วนลดแอร์
ไหนตั๋วเครื่องบิน จะได้ลดราคาพนักงาน ลามไปถึงสินค้าแบรนด์แนมต่างๆที่สามารถไปซื้อได้ด้วยตัวเองที่เมืองนอก ยิ่งถ้าได้ซื้อในสนามบิน ยื่นบัตรพนักงาน ลดไปอีก 10-20 % กันเลยทีเดียว ตอนไปเที่ยวในวันหยุด บางโรงแรมจะอัพเกรดห้องให้ลูกเรือ โดยเฉพาะ จากห้องธรรมดา เป็นห้องหรู ขึ้นมาอีก น้ำหอมตัวไหน ดัง เพียงแค่เดินไป ดูตี้ฟรี หาได้ครบหมดทุกแบรนด์ แถมได้ซื้อในราคาพนักงาน
ค่าใช้จ่ายก็สูง
ข้อเสียอันดับแรกเลยคือ เป็นแอร์ก็มีค่าใช้จ่ายนะคะ แถมค่าใช้จ่ายสูงด้วย เพราะพวกเรา ได้เดินทางไปรอบโลก แน่นอน ว่ามีแต่ของล่อตา ล่อใจ กระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า แบรนด์เนม นี่ทำให้หนุ่ม สาวแอร์หลายคน เก็บเงินไม่ได้เลยก็มี
แถมค่าครองชีพ ตามประเทศ ที่เดินทางไปทำงานก็แพง อีก อาทิ อยู่โดฮา ค่ากาแฟ แก้วละ 240 บาท คือปกติ ดังนั้นถ้าไม่ระมัดระวัง ค่าใช้จ่าย ก็เงินหมด ได้ง่ายๆค่ะ
ต้องเดินทางตลอดเวลา
ใช่ค่ะ เป็นข้อเสียสำหรับใครที่ชอบอยู่บ้าน หรือ มีกิจกรรมทำที่บ้าน เพราะเป็นแอร์เนี่ย ต้องเดินทางตลอด เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนหมอนทุกวัน
ตามตารางบินที่สายการบินให้มา จนบางครั้ง อาหารในตู้เย็นที่ซื้อไว้ หมดอายุ เลยก็มี เพราะไม่มีเวลากิน ด้วยความที่ต้องเดินทางตลอด บางครั้ง ใน 1 อาทิตย์ อาจจะไม่ได้อยู่บ้านเลยก็มี เพราะต้องทำไฟล์
ปฏิทินชีวิตไม่เหมือนใคร
อันนี้เป็นข้อเสีย เพราะชีวิตแอร์ เราจะคิดกันเป็นเดือนๆ ว่าเดือนนี้ได้ไปไหน เรียกว่า Roster ดังนั้นต่อให้เป็นเดือนธันวาคม วันหยุดสิ้นปี เทศกาล หยุดยาวใด ถ้าตารางบิน ออกมาว่าต้องไปบิน ก็คือต้องไปบิน ทำมาแล้วค่ะ Countdown บนไฟล์ เพราะว่าเราหยุดไม่ได้ ถ้าตารางบอกต้องไปบิน ช่วงวันหยุดที่ครอบครัวมารวมกัน ก็ทำใจไว้เลยว่า เราอาจจะไม่ได้ไปร่วมด้วย
ปัญหาสุขภาพ
พอมีประกัน ก็ใช้ (ฮ่าๆๆ) มันเลี่ยงไม่ได้ค่ะ เรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาปวดหลัง ปวดขา ปัญหาหลังคต ปัญหาหูบล๊อก หรือ แม้แต่ปัญหาผิวหนัง อย่างผิวแห้ง สารพัดปัญหาสุขภาพ เพราะ เวลาทำงานต้องเดินไป เดินมา บางทีต้องยกของหนัก ถ้าใครดูแลตัวเองไม่ดีพอ บอกเลยว่า ป่วย แน่นอน ดังนั้น ถึงจะไม่มีเวลาขนาดไหน ก็ต้องหาทางนอน ดื่มน้ำเยอะๆ ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ หาเวลาไปออกกำลังกายด้วย ค่ะ
ปัญหาทางจิตใจ(โรคซึมเศร้า)
เศร้าจริง ค่ะถ้าปรับตัวไม่ได้ก็คือเหงามาก เวลาไปทำงานเจอผู้คนมากมาย แต่พอกลับบ้านมา กลับไม่มีใคร จะโทรศัพท์ไปหาคนที่บ้าน หรือ แฟนทุกคนก็อาจจะหลับหมดแล้วเพราะเวลาที่ต่างกัน เพื่อนที่บินด้วย ก็ติดบินกันหมด กลับมาเหนื่อยๆ อยากคุยกับใครสักคน ก็ไม่ได้คุย โดยเฉพาะแอร์สายแขก ที่ต้องไปเบสที่ต่างประเทศ บอกเลยว่าถ้า ไม่สามารถจัดการกับ อารมณ์ และ วิธีคิดได้ อาจจะเจอกับความเหงาจนอยากกลับไทยเลยก็ได้
ปัญหาความสัมพันธ์ทางไกล
เป็นแอร์จะต้องเดินทางตลอดเวลา ไม่มีชีวิตประจำวันแบบพนักงานออฟฟิศ ชีวิตไม่เป็น Routine จนบางครั้งทำให้มีผลกระทบ ด้านความสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะเริ่มจาก หาเวลาโทรคุยกันไม่ได้ ไม่ไว้ใจกันเพราะอยู่ไกล อาจจะเป็นเหตุผลที่สามารถกระทบกับความสัมพันธ์ได้ แต่ถ้าจัดการได้ดี คุยกัน ไว้ใจกัน ก็มีหลายๆคู่ ที่ยังคบกันอยู่ จนแต่งงานกันเลยก็มีค่ะ
ต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัด
เป็นแอร์ก็จะมีกฏ นั่น โน้น นี่ให้ปฏิบัติตาม จนบางครั้งก็เครียดเพราะกฏ ยิ่งสายการบินมากดาว กฏก็ยิ่งเยอะ ห้ามทำนั่น ห้ามทำนี่ ห้ามจนเครียด เช่น ห้ามออกจากที่พัก (Minimum Rest) ต่างๆ ก่อนจะไปสมัครสายการบินไหน ก็คิดให้ดีนะคะว่า เราพร้อมรับมือกับกฏเหล่านั้นไหม ถ้าไม่โอเค แนะนำให้เรียบเปลี่ยนสายการบิน ตั้งแต่เตรียมตัวสมัคร
นอนไม่พอ
เป็นแอร์นี่นอนไม่พอจริงๆนะคะ บางครั้งนอนไปแล้ว 10 กว่าชั่วโมง ก็รู้สึกว่าไม่พออยากนอนต่อ เพราะการทำงานแอร์ ก็เหมือนกับการทำงานเป็นกะ แต่เป็น กะที่โหดกว่า เพราะสามารถสลับ เช้า ดึก เช้า ดึก ติดต่อกันได้ เช่น วันนี้ได้ไฟล์ดึก อ้าวต้องเตรียมนอนตอนกลางวันเพราะต้องทำงานตอนกลางคืน พอวันถัดมาได้ไฟล์เช้า ก็นอนไม่พอขออีกวันแล้ว แต่ก็ฝืนถ่างตา ไปทำงานวันรุ่งขึ้น บอกเลยว่า เหนื่อยมาก จนบางครั้งต้องกินวิตามิน ช่วยนอนไว อย่าง Melatonin ให้รู้สึกง่วง หรือ กินกาแฟหนักๆ ในวันที่ต้องตื่นไปทำงาน
ชีวิตเสี่ยงตายได้ตลอด
เป็นแอร์เสี่ยงตายนะคะ แถมเสี่ยงโรคอีกด้วย ถึงแม้ว่า อุบัติเหตุ บนอากาศ จะน้อยกว่า บนท้องถนนมากก็ตาม แต่ถ้าเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มักจะมีโอกาส ตาย สูงมาก และ บางครั้ง โรคติดต่ออะไรที่ระบาด หนักๆ เป็นแอร์ก็มีโอกาสติดก่อน ใครเค้าเลย อย่าง ล่าสุด ไวรัส อีโบล่า ระบาดในทวีปแอฟริกา ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่า ผู้โดยสาร ได้รับเชื้อมาบ้างหรือไม่ เราไม่รู้เลย
เตรียมตัวสมัคร
วิธีลัดที่สุด ที่จะพาคุณไปถึงความฝัน
เตรียมตอบคำถามสัมภาษณ์แอร์/สจ๊วต กับ 109 Toughest Interview Questions and Answers ที่คนมักจะตอบไม่ได้ และ ตกรอบ แต่ เราได้เตรียมตัวอย่างคำตอบ และ สอนวิธีการตอบเหล่านั้นให้ น้องๆแล้วด้วย ด้วย เทคนิค STEP
Ploy
สวัสดีค่ะ พี่พลอย ค่ะ พี่ดีใจที่น้องๆ สนใจ ที่เข้ามาเว็บไซต์ ของพี่นะคะ ติดต่อพี่ได้ที่ E-mail : team@airkhaek.com หรือ Facebook : https://www.facebook.com/airkhaek.co ประสบการณ์ชีวิตการทำงานที่ตะวันออกกลาง : https://go.airkhaek.com/qatar-crew-life