แอร์ไพรเวทเจ็ท (Private Jet Cabin Crew) คือ อะไร
น้องๆหลายคนอาจจะสงสัย เมื่อได้ยินคำว่า “ แอร์ไพรเวทเจ็ท ” ว่าเอ๊ะ!่ การเป็นแอร์โฮสเตสเนี่ยยังมีแยกย่อยอีกหรอ ทำไมคำว่า Private Jet มันดูพิเศษ และดู Exclusive จัง แล้วการที่เป็นแอร์ไพรเวทเจ็ท หน้าที่จะแตกต่างจากการเป็นแอร์ commercial หรือแอร์โฮสเตสที่เราเห็นๆอยู่อย่างไร วันนี้พี่จะมาพูดให้ฟังค่ะ
แอร์ไพรเวทเจ็ท นั้น คือการบินกับเครื่องบินเช่าเหมาลำ ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของเศรษฐี อภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย เหล่าดาราcelebrities นักการเมือง นักธุรกิจ เหล่าเชื้อพระวงศ์ หรือแม้แต่นักกีฬาทั้งทีม ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็น VVIP customers ทั้งสิ้น
สายการบินแบบเช่าเหมาลำ หรือบินแบบส่วนตัวในประเทศไทยก็มีอยู่หลายที่ เช่น Advance Aviation Jet, King Power, CP, MJets หรือ ทางสายตะวันออกกลางอย่าง Amiri Flight ของการ์ต้า เป็นต้น
** ระวังโดนหลอก กับ คอร์สลงเรียน แอร์ไพรเวท เจ็ท สายการบิน มี Criteria อายุ และ ต้องการผู้ทีมีประสบการณ์ บริการมาก่อน โดยเฉพาะ ประสบการณ์ในการทำงาน Business Class **
รายได้ และ สวัสดิการ ของ ลูกเรือ ไพรเวทเจ็ท
เรียกได้ว่า รายได้ มหาศาล ค่ะ สำหรับ การเป็น ลูกเรือ ไพรเวทเจ็ท เพราะ ด้วยหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบอย่างสูง การทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น ไม่เป็นเวลา ค่าตอบแทนจึงมากอย่างสมเหตุสมผล
ถ้าเปรียบเทียบกับรายได้ ของ ลูกเรือสายตะวันออกกลาง ที่่อยู่ที่ประมาณ 80,000-130,000 บาท แล้วนั้น รายได้ของลูกเรือไพรเวทเจ็ท ก็ มากกว่าถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียวค่ะ หรือ USD6,500-8,000 เรียกได้ว่าบินเพียง 3-4 เดือน ก็สามารถเห็น เงินล้าน ได้เลยค่ะ
ลักษณะงาน ของ ลูกเรือ ไพรเวทเจ็ท
หัวใจสำคัญ ของ การบิน เป็น ลูกเรือไพรเวทเจ็ท คือ การทำ catering ค่ะ เพราะการบินประเภทนี้ ลูกเรือจะต้องจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ด้วยตัวเองเรียกได้ว่าทุกอย่างที่อยู่บนเครื่องบิน หมอน ผ้าห่ม ของตกแต่งจัดวางลูกเรือต้องจัดเตรียม หาซื้อด้วยตนเอง โดยทางบริษัทจะจัดเตรียมงบไว้ให้
แต่ การบินแบบ commercial flight นั้นทางบริษัทจะเป็นผู้จัดเตรียมให้ ลูกเรือไม่จำเป็นจะต้องมานั่งคิดเมนูใดๆ ลูกเรือจะมีหน้าที่แค่เช็คว่าเมนูเป็นอะไร จำนวนอาหารนั้นครบตามจำนวนผู้โดยสารเพียงเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่า ลูกเรือไพรเวทเจ็ท นั้นต้องจัดเตรียม ซื้อสิ่งของต่างๆด้วยตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าเราจะซื้อโดยที่ไม่คำนวณถึงงบประมาณของเจ้านายเรา หรือของทางบริษัทเลย เราสามารถรักษาผลประโยชน์ให้ทางบริษัท อย่างเช่น เวลาไปเลย์โอเวอร์ที่ประเทศนั้นๆ เราสามารถหาซื้ออาหารที่เป็นอาหารท้องถิ่นจากประเทศนั้นๆ เพราะจะถูกกว่า แต่ก็ได้คุณภาพดี หรือวางแผนโดยติดต่อกับโรงแรม หรือร้านอาหารในประเทศนั้นๆ สำหรับ catering ขากลับ โดยที่ไม่ต้องใช้ catering ของทางสนามบิน ซื่งการทำเช่นนี้ catering ที่ทางบริษัทต้องจ่ายก็ถูกลงอีกด้วย
และ ลูกเรือไพรเวทเจ็ทโดยปกติจะรู้ Profile ของผู้โดยสารล่วงหน้า ฉะนั้นเราควรต้องรู้ด้วยว่าผู้โดยสารของเราชอบหรือไม่ชอบทานอะไร มีแพ้อาหารชนิดใดหรือไม่ มีเด็กร่วมเดินทางด้วยมั๊ย
และมีผู้ติดตามมากี่คน บนไฟล์ทนั้นจะมี VVIP มากี่คน เพราะจะเป็นการง่ายต่อการจัดเตรียม catering ลูกเรือไม่จำเป็น ต้องจัด เตรียมอาหาร แบบpremium ให้กับผู้ติดตาม เช่น ล็อบสเตอร์ จัดเตรียมให้กับผู้โดยสาร VVIP ผู้ติดตามเสิร์ฟเป็นซีฟู้ด หรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่นก็ได้ นี่ก็เรียกได้ว่าลูกเรือจัดการรายจ่ายให้กับทางบริษัทได้เป็นอย่างดี
ทริคอีกเล็กๆสำหรับการเป็นลูกเรือไพรเวทเจ็ท แต่อย่างน้อยจะทำให้ทำงานง่ายขึ้น คือ การเปลี่ยนรองเท้า เพราะร้องเท้าที่ลูกเรือใส่ขึ้นเครื่องไปนั้นอาจมีฝุ่น โคลนตินไปด้วย บนเครื่องบินนั้นจะเป็นพรหมปูทั้งลำอาจสกปรกและทำความสะอาดยาก เพราะหน้าที่การทำความสะอาดทั้งหมดจะเป็นของลูกเรือค่ะ
การทำงาน และ ตารางบิน
โดยปกติลูกเรือไพรเวทเจ็ทจะบินตาม Owner หรือเจ้านายไปยังสถานที่ต่างๆ ตามแต่นายของเราจะไปไหน และค้างคืน (Layover) สั้นหรือหลายๆวันก็แล้วแต่เจ้านายของเราเช่นกัน แต่ถ้าเราบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter) ก็ขึ้นอยู่กับทางบริษัทว่าจะให้เลย์โอเวอร์นานมากน้อยเท่าไหน
ส่วนใหญ่การบินแบบนี้ ลูกเรือจะoperate flight เพียงคนเดียว หรือ 2 คน ถ้าน้องๆบินไฟล์ทแรกๆ จะมี ลูกเรือรุ่นพี่ (Senior) บินประกบ คอยสอนงาน ถ้าเจอคนดีๆ น้องๆจะได้ความรู้จากรุ่นพี่มากๆ ก็ต้องพยายามเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด
เครื่องบินแบบไพรเวทเจ็ท ส่วนใหญ่ จะเป็นเครื่องบินลำเล็กอย่าง
- Dassault Falcon Jet จำนวนผู้โดยสาร 12-16 คน
- Bombardier Challenger 605 จำนวนผู้โดยสาร 12 คน
- Cessna Citation จำนวนผู้โดยสาร 9 คน
- หรือเป็นเครื่องบินลำใหญ่ก็มีใช่บินเช่นกัน เช่น Private Boeing 737
บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วด้วยความเป็นการบินแบบส่วนตัว อย่างนี้ความเป็นส่วนตัวของเราล่ะจะเป็นยังไง จะได้หยุดได้พักบ้างมั๊ย อาชีพแอร์สำหรับพี่เราจะไม่ได้มีเวลาเฉลิมฉลองเทศกาลอย่างใครๆเขา เพราะบางทีวันเกิดก็ยังต้องบิน หรือบางทีก็ได้เคาท์ดาวน์อยู่บนท้องฟ้าขณะกำลังเสิร์ฟอยู่ก็มี แต่ถ้าน้องมีใจรักในงานนี้จริงๆ แค่นี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลยค่ะ
เพราะถ้าเทียบแล้ว วันหยุดของลูกเรือนั้นมีค่อนข้างมากหรืออย่างน้อย 7-8 วันต่อเดือน วันหยุดยาวหรือลีฟของเราก็ยังมีอีก ช่วงเวลานั้นน้องจะเดินทางกลับไทย ในกรณีที่น้องเบสต่างประเทศ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่นก็ยังได้
แต่สำหรับลูกเรือไพรเวทเจ็ท วันทำงาน วันหยุดก็ขึ้นอยู่กับสัญญาของแต่ละบริษัท มีทั้ง ทำงาน 45วัน หยุด 45วัน หรือทำงาน 30วัน หยุด 30วัน เป็นต้น
ข้อดี ข้อเสีย ของงาน แอร์ไพรเวทเจ็ท
ข้อดี ของ แอร์ไพรเวทเจ็ท
- ค่าตอบแทนหรือเงินเดือนสูงมากๆ และอยากกระซิบบอกว่า น้องๆยังจะได้ทิปจากการบินแบบนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นธรรมเนียมเลยค่ะ ว่าผู้โดยสารต้องให้ทิปและลูกเรือก็สามารถรับได้
- มีวันหยุดมากมาย เพราะก็ไม่ได้บินหนักอย่างที่ใครๆคิด
- ได้ท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ อย่างที่ใครๆหลายๆคนใฝ่ฝัน
- อาชีพแอร์ไพรเวทเจ็ท น้องจะได้เจอสังคมของนักธุรกิจ เชื้อพระวงศ์ หรือผู้โดยสารที่มีฐานะ ทำให้น้องมีโอกาสได้มี connection ดีๆในอนาคตในวันที่อยากหยุดบิน
- เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจ เพราะใครๆก็อยากเป็น เมื่อวันนึงที่น้องทำได้ น้องจะมีความภูมิใจอย่างที่สุด
- ได้เรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร การจัดจาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้น้องยังสามารถนำมาใช้ในการเข้าสังคมได้อีกด้วย
- รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ข้อเสีย แอร์ไพรเวทเจ็ท
- มีการแข่งขันที่สูงมาก และบางสายการบินต้องการลูกเรือที่มีประสบการณ์เท่านั้น
- ต้องห่างไกลบ้านเป็นเวลาเดือนๆ
- ไม่ได้เฉลิมฉลองเทศกาลพิเศษเหมือนอย่างคนที่ทำอาชีพอื่น
- รายจ่ายอาจมีมาก เพราะมีแต่สิ่งล่อตาล่อใจ ถ้าไม่วางแผนการใช้เงินดีๆ อาจไม่มีเงินเก็บอย่างที่ตั้งใจ
- มีความกดดันสูงจากการทำงานที่มาตรฐานในการทำงานค่อนข้างสูง
คุณสมบัติ แอร์ไพรเวทเจ็ท
พี่อยากให้น้องจำคำนี้ให้ขึ้นใจ เพราะเป็นคำที่ดีมากๆ นั่นคือคำว่า “Discreet” นั่นเป็นเพราะว่าสายงานนี้ ลูกเรือไพรเวทเจ็ทจะต้องต้อนรับและดูแลผู้โดยสารระดับ VVIP ซึ่งส่วนใหญ่บนไฟล์ทอาจจะมีการคุยธุรกิจ ประชุม ซึ่งผู้โดยสารจะต้องการความเป็นส่วนตัว ลูกเรือจึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ และไม่ควรแพร่งพรายความลับใดใดของผู้โดยสาร
“Flexible” คุณสมบัตินี้ลูกเรือไพรเวทเจ็ทก็ควรมีเช่นกัน เพราะบางครั้งอาจเจอเหตุการณ์ที่onboard ไปเรียบร้อยแล้วแต่ไฟล์ทถูกยกเลิก หรือเปลี่ยนเส้นทาง ลูกเรือก็ควรพร้อมรับมือกับสถาณการณ์ เช่นนี้
“Teamwork” แม้ว่าบางครั้งเราต้อง operate ไฟล์ทเป็นลูกเรือเพียงคนเดียวบนไฟล์ท แต่เราก็ยังต้องทำงานร่วมกับกัปตัน วิศวกรประจำเครื่องด้วย บางทีก็ต้องบินด้วยกันทั้งเดือน การทำงานเป็นทีมเพื่อให้งานในแต่ละไฟล์ทลุล่วงไปด้วยดี ผู้โดยสารประทับใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เอกสาร ที่ต้องเตรียมไว้ ก่อน สมัคร Private Jet Cabin Crew
น้องๆควรจะเตรียมเอกสารต่างๆที่จำเป็นสำหรับการสมัครงานให้พร้อม เพราะคนที่พร้อมย่อมได้เปรียบ และเมื่อใดที่มีสาบการบินใดๆมาเปิดรับ น้องก็จะสามารถส่งสมัครได้ทันที
เอกสารที่ควรเตรียมให้พร้อม
- CV (ทำ ATS CV + Design CV ติดต่อ)
- Cover Letter
** เพราะ การสมัครแอร์ Private Jet ส่วนใหญ่ เป็นการสมัครผ่าน อีเมลค่ะ ควรมี Cover Letter ** - รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว และแบบเต็มตัว
- สำเนาพาสปอร์ต
- ใบรับรองการทำงาน
- ใบ Certificate ต่างๆ
- ใบรับรองการฉีดวัคซีน
หลังจากทำเอกสาร เหล่านี้ เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้สร้าง Profile LinkedIn นะคะ เพราะว่า งาน Private Jet ส่วนใหญ่ จะอยู่ในช่องทางนั้น
ติดต่อแอร์แขก ให้เขียน Private Jet Cabin Crew Resume/ CV , Cover Letter , บริการทำ LinkedIn
หรือ คอร์สเรียน ติวสัมภาษณ์ Private Jet ราคา 75,000 บาท
รวมทำ เอกสาร และ CV ให้ แอดไลน์ แอร์แขก
ลักษณะ รูปถ่าย แอร์ไพรเวทเจ็ท
รูปถ่ายสำหรับสมัครงานไพรเวทเจ็ทนั้นจะแตกต่างกับรูปถ่ายสมัครแอร์ทั่วไปตรงที่ เราไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า ทำผมตามแพทเทินของแอร์commercial อย่างที่คุ้นเคยกัน
ชุดนั้นควรดูสุภาพ การตัดเย็บควรเนี้ยบ ดูดี เพราะการแต่งตัวก็จะบ่งบอกถึงความเป็นprofessional น่ามอง ถ้าใส่กระโปรงก็ไม่ควรสั้นเกินไป ใส่กางเกงก็ไม่ควรฟิต สีของชุดควรจะดูสุภาพ สบายตา ผมนั้นสามารถปล่อยผม ไม่เจ็บเป็นต้องรวบทั้งหมด แต่ก็ควรเซ็ทผมให้ดูเรียบร้อย ไม่ชี้ฟู
Ploy
สวัสดีค่ะ พี่พลอย ค่ะ พี่ดีใจที่น้องๆ สนใจ ที่เข้ามาเว็บไซต์ ของพี่นะคะ ติดต่อพี่ได้ที่ E-mail : team@airkhaek.com หรือ Facebook : https://www.facebook.com/airkhaek.co ประสบการณ์ชีวิตการทำงานที่ตะวันออกกลาง : https://go.airkhaek.com/qatar-crew-life