8 เคล็ดลับ วิธีเพิ่มความมั่นใจ ไป สมัครแอร์ สมัครสจ๊วต
วิธีเพิ่มความมั่นใจ ไป สมัครแอร์ สมัครสจ๊วต
มีวิธีอะไรบ้าง ที่จะทำให้น้องๆ เพิ่ม ความมั่นใจในตัวเอง มากขึ้น ในวันที่ จะต้อง ลงสนามสมัครแอร์ สมัครสจ๊วต แข่งกับผู้เข้าแข่งขัน คนที่ทั้งเก่ง และ สวย หล่อ เป็นพันๆ คน
บ่อยครั้งในชีวิต ที่เราได้เห็นภาพ คนที่ไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตสูงนัก ไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ หรือมีประสบการณ์มากมายอะไร แต่เค้าเหล่านั้นกลับมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยที่ไม่ต้องแม้กระทั่งพูดอะไรออกมาด้วยซ้ำ
แค่เดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์งาน และ กลับออกมาด้วยความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ เค้าเหล่านั้น ไปสร้างความมั่นใจ มาจากไหนกัน ? มีเคล็ดลับอะไรกัน ? แล้วเราจะทำได้อย่างเขาไหม ? คนเราจะสร้างความมั่นใจในตัวเองได้อย่างไร ?
8 วิธีเพิ่มความมั่นใจ ในการสมัครแอร์ สมัครสจ๊วต
1. แต่งตัวให้ดูดี และ รู้สึกมั่นใจ
2. หาข้อมูล เกี่ยวกับ เทคนิคการสัมภาษณ์งาน
3. ซ้อมเตรียมคำตอบ ในการตอบคำถามสมัครงาน
4. จินตนาการว่า กรรมการ ก็เคย อยู่จุดเดียวกับเราเนี่ยแหละ
5. อย่าคิดแง่ลบ กับตัวเอง ว่าเราไม่ดีพอ หรือ ทำไม่ได้
6. ให้คิดในแง่บวก และ ฝึกทำ Affirmation
7. จินตนาการ ความสำเร็จของตัวเอง
8. ทำให้ดีที่สุด แล้ว รู้จักปล่อยวาง
ความเชื่อมั่นคือสถานะของการดำรงอยู่ เป็นสิ่งที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะปราศจากความสงสัยใดๆขึ้นภายในความคิด และ จิตใจ
คนเราสามารถสร้างความมั่นใจของเราได้ จากความเชื่อแบบง่ายๆ
1. แต่งตัวให้ดูดี และ รู้สึกมั่นใจ
Wear an outfit that makes you feel amazing
อาจฟังดูธรรมดา แต่มันคือความจริง สำหรับ วิธีเพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะกับ ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย คนเราจะมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อได้แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ
ดังนั้น เลือกชุดที่ใส่แล้วชอบ เอาให้ ตัวเองรู้สึกมั่นใจที่สุด ในวันสัมภาษณ์ นะคะถึงแม้ว่าวันไปสัมภาษณ์ เราจะต้องเลือกชุดที่เป็น Business Attire แต่เราสามารถเลือกใส่สี หรือขนาดความยาวที่เราใส่แล้วสบายได้ อย่าลืมว่า ความสบายก็จะช่วยให้เราไม่กังวลกับชุด และจะสร้างความมั่นใจเหมือนกันน้า นอกจากนี้ ให้น้องๆลองฝึกแต่งหน้าเล่นๆดูสักรอบก่อนวันไปสัมภาษณ์จริงนะคะ ว่ามันเข้ากับชุดไหม พอแต่งออกมาแล้ว รู้สึกมั่นใจไหม ถ้าแต่งออกมารู้สึกสวย พร้อมที่จะไปสัมภาษณ์ ก็ใช่เลย ให้แต่งไปแบบนั้นเลยค่ะ
2. หาข้อมูล เกี่ยวกับ เทคนิคการสัมภาษณ์งาน
Research the interview steps
พยายาม ศึกษาหาข้อมูลไปก่อนวันสัมภาษณ์ ว่า จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ประมาณไหน เพื่อจะได้รับมือกับมันได้ จะได้ไม่รู้สึกแปลกใจ ภายหลัง ในวันสัมภาษณ์จริง หรือ เรียนรู้เทคนิคการตอบคำถามยากๆ
Have a plan for how you are going to tackle each stage.
ลองสมมติ ดูคร่าวๆว่า ถ้ากรรมการเค้าถามสิ่งเหล่านี้ในวันสัมภาษณ์ แล้วเราจะลองตอบยังไง ลองซ้อมดูประมาณนี้ นะคะ – สิ่งที่น้องๆจะพูดเมื่อขอให้แนะนำตัวเอง? น้องๆจะวางตัวอย่างไรเมื่อมีการทำ Group Discussion โดยจะพูดแนวไหน ถ้าเพื่อนในกลุ่มพูดเข้าข้างเรา หรือ ตรงกันข้ามกับเรา ? ถ้าน้องๆ มีความคิดตรงกันข้ามกับเพื่อนๆในกลุ่ม น้องๆจะพูดแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมายังไง ? หรือ น้องๆจะพูดยังไงให้สนับสนุนความคิดของเพื่อน? น้องๆจะตอบคำถามยอดฮิตอย่าง “ทำไมคุณถึงอยากเป็นลูกเรือ?” หรือ “ทำไมคุณถึงพิจารณาสายการบินของเรา?” ยังไง?
3. ซ้อมเตรียมคำตอบ ในการตอบคำถามสมัครงาน
Prepare your answers
เตรียมคำตอบไว้บ้าง ซึ่งคำถามส่วนใหญ่ ที่ถามเกี่ยวกับตัวเรามันจะถามเมื่อผ่านไปยังรอบสุดท้าย Final Interview ที่จะเป็น รอบสุดท้ายตัดเชือกว่าจะผ่านไป หรือ ไม่ผ่าน
ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่กรรมการ ไม่เคยถามน้องๆ ในรอบแรกๆ มาก่อน รวมทั้งความกดดันต่างๆ เพราะมันเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ดังนั้น ให้น้องๆ ลองฝึกสร้างสถานการณ์ให้คล้ายกับการสัมภาษณ์ รอบสุดท้าย แล้วขอให้เพื่อนๆ ลองสัมภาษณ์เราดู และ ขอคำติชม จากเพื่อนๆ ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองตรงไหน
เพราะบางทีกรรมการ อาจจะไม่ได้สนใจว่าคำตอบน้องคืออะไร แต่สนใจวิธีการตอบ และ แสดงออกของน้องๆ มากกว่า นะคะ และพยายาม ปรับแต่งสำนวน สิ่งที่น้องๆต้องการสื่อสาร จากคำแนะนำติชมจากเพื่อนๆ การฝึกแบบนี้ จะช่วยให้น้องๆ ได้ฝึกกับการจัดการตัวเอง เมื่อมีสถานการณ์ต่างๆที่เราไม่คุ้นชิน ในชีวิตประจำวันนะคะ
ซึ่งขั้นตอนนี้ จะทำให้น้องๆ ตระหนักถึง คำถามบางคำถาม หรือที่เราเรียกกันว่า “Trick Questions/คำถามลวง” ว่าเราจะตอบประมาณไหนดี น้องๆสามารถฝึกเตรียมตัว กับคำถาม และคำตอบเหล่านั้นได้ที่ดี ค่ะ
4. จินตนาการว่า กรรมการ ก็เคย อยู่จุดเดียวกับเราเนี่ยแหละ
Imagine the interviewer when they were just like you
คนเราทุกคนมันจะหวาดกลัว บุคคลที่มีอำนาจเหนือกว่าเรา โดยเฉพาะในกรณีนี้ การสัมภาษณ์งานกับสายการบิน กรรมการจากสายการบิน เปรียบเสมือน ผู้ที่มีพลังอำนาจ ในการตัดสินใจ ชะตาชีวิตที่จะมากำหนดอนาคตของเราว่าจะได้งานนี้หรือไม่
ซึ่งจริงๆแล้วมันคือภาพลวงตา ซึ่ง กรรมการที่มาสัมภาษณ์จากสายการบิน เค้าก็เป็นบุคคลธรรมดา เหมือนกับเราเนี่ยแหละค่ะ
เพียงแต่กรรมการ เค้าจะต้องเลือกผู้เข้าสมัครที่ตรงกับความต้องการของสายการบินให้มากที่สุด ดังนั้น เค้าอาจจะมีกฏเกณฑ์ต่างๆ เพื่อคัดเลือกผู้เข้าสมัครที่มี ทัศนคติที่ดี จะทำงานเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ เป็นคนปกติที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท ของเขา
นี่มันเยอะไปไหมเนี่ย !!!
คือมันก็หยุดคิดไม่ได้ใช่ไหมคะ ว่า แบบเห้ย ต้องทำอะไรขนาดนี้เลยเหรอ กับการมาสมัครแอร์เนี่ย ให้ลองคิดแบบนี้นะคะ ตั้งแต่โมเมนต์ที่เราจะต้อง ต่อแถ เพื่อจะไปยื่น CV ให้กับกรรมการ หรือแม้แต่ตอนที่นั่งฟัง Presentation ของบริษัท ให้ลองมองหน้ากรรมการเหล่านั้น แล้วลองจินตนาการดูนะคะว่า
เมื่อหลายปีที่ ผ่านมา กรรมการที่เค้ามายืนอยู่ตรงหน้าเราวันนี้เนี่ย เค้าก็จะต้องผ่านโมเมนต์ แบบวันนี้เหมือนเรา มาเหมือนกัน ที่จะต้องมา : ยืนต่อคิว หวังที่จะได้รับคัดเลือกเป็นลูกเรือ พวกเขาก็คงจะรู้สึกไม่ต่างไปจากน้องๆวันนี้ ที่มีความใฝ่ฝัน ที่อยากจะประสบความสำเร็จ ได้คว้าปีกมาเหมือนกับน้องๆเลย
พวกเขา ก็เหมือนกับน้องๆ และผู้เข้าสมัครหลายๆคนที่นั่งติดกับน้อง ที่กำลังเฝ้ารอให้ความฝันนั้นเป็นจริง
5.อย่าคิดแง่ลบ กับตัวเอง ว่าเราไม่ดีพอ หรือ ทำไม่ได้
Silence the mental chatter that puts you down
บ่อยครั้งที่เราคิดว่าเราไม่คู่ควร :
ฉันกล้าฝันว่าฉันจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้อย่างไร?
ฉันไม่สวยพอ
ฉันฟันเก
ฉันมีชีวิตไฮโซแบบนี้ไม่ได้หรอก
ฉันจบแค่ม.ปลายเอง
ฉันไม่ดีพอ.
ฉันมาจาก … .. ฉันควรทำตัวเงียบๆและอยู่ในที่ของฉัน
ฉันไม่ฉลาดพอ
ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งนี้
เป็นแอร์มันสูงไป
ฉันทำไม่ได้หรอก
ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษ
คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดเชิงลบ ที่น้องๆจะต้องติดมันทิ้งออกไป ก
คำพูด และสิ่งต่างๆที่จะทำให้เราเสียกำลังใจ ความคิดของเราจะกลายเป็นความจริง
เมื่อน้องๆพบว่าตัวเองมีความคิดเหล่านี้ปรากฏขึ้นภายในจิตใจ พี่ขอให้น้องๆ ตัดมันทิ้งไปค่ะ
มนุษย์เราทุกคนสามารถตัดสินใจทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ เมื่อใจเราเชื่อมั่นว่าเราทำได้
เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่มันมักจะเกิดขึ้น 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรกที่ความคิด และ ครั้งที่ 2 เมื่อเราลงมือทำ
พี่เคยคิดนะคะว่า สายการบินมันมีเป็นร้อยๆ สาย แต่ละสายที่เราชอบ ก็เปิดรับสมัครเดือนละบ่อยๆ มันต้องมีสักรอบ สับสายการบินที่เราได้รับคัดเลือก อย่าท้อนะคะ พี่ขอเป็นกำลังใจทุกคนที่กำลังเดินทางสายนี้นะคะ
6.ให้คิดในแง่บวก และ ฝึกทำ Affirmation
Use Positive Affirmations
ในการสร้างความคิดเชิงบวกบางครั้งเราจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการพูดด้วยวาจาที่มีเนื้อหาเชิงบวก หรือที่เรียกว่า ” Positive Affirmation” ซึ่งเป็นคำพูดง่ายๆ ที่พูดถึงตัวเองในแง่ที่ดีแบบธรรมชาติ ที่เรานึกขึ้นได้ หรือหากเราไม่ทราบ หรือไม่รู้จะเริ่มต้นคำพูดเหล่านั้นอย่างไร พี่ก็หามาไว้ให้ตรงนี้แล้วค่ะ การที่เราฝึก
พูด Positive Affirmation จะช่วยสร้างความนับถือตนเองของน้องๆ มากขึ้นด้วยนะคะ
ให้พูด:
ฉันกำลังจะเป็นแอร์/สจ๊วด
ฉันสวย
รอยยิ้มของฉันช่วยคนได้
ไลฟ์สไตล์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ฉันอยากจะเป็น
โลกนี่คือโรงเรียนของฉัน มีการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด
ฉันเป็นคนดี และ ฉันก็ทำได้ดีด้วย
ฉันเป็นพลเมืองของโลกใบนี้
ฉันฉลาด.
ฉันสมควรได้รับชีวิตที่ดี
มันอาจจะฟังดูแปลกๆ ในตอนแรกเมื่อแปลเป็นไทยนะคะ เพราะการพูดแง่บวกเน้นย้ำกับตัวเอง เป็นวิธีที่เราพูดถึงสิ่งที่เราเป็นอยู่ หรือไม่ได้เป็นอยู่ก็ได้ แต่จะเป็นคำพูด ที่จะสร้างความนับถือตนเองเพิ่มมากขึ้น
และช่วยน้องๆ มาจากจิตใต้สำนึก และ จิตใจความเชื่อมั่น มักจะมาพร้อมกับการทำซ้ำๆ พี่แนะนำให้น้องๆ เขียนคำเหล่านี้ลงไปบนกระดาษ ด้วยลายมือ วางไว้หน้ากระจกล้างหน้า โต๊ะทานข้าว หรือใต้หมอ และบังคับตัวเองให้พูดออกมา เปล่งเสียงออกมาด้วย ให้โสตประสาททั้งหมดได้ยิน และตอกย้ำคำพูดดีๆเหล่านี้เข้าไปในจิตใจ
7.จินตนาการ ความสำเร็จของตัวเอง
Visualize your success
ให้ลองจินตนาการณ์ เกี่ยวกับวันที่จะไปสัมภาษณ์ ว่าจะเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ด้วยท่าทางแบบไหน จะนั่งท่าไหนระหว่างที่นั่งสัมภาษณ์หน้าโต๊ะ ต่อหน้ากรรมการ ลองฝึกยิ้มต่อหน้ากระจก สมมติว่าเรานั่งต่อหน้ากรรมการ จินตนาการไปถึงการสิ้นสุดการสัมภาษณ์ และนั่งรอโทรศัพท์จากสายการบิน เพื่อมาบอกข่าวดี (Golden Call) จินตนาการ เตรียมเก็บกระเป๋าเพื่อเดินทางไปยังเบส ของสายกาารบิน สวมชุดยูนิฟอร์มสวยๆ และกำลังเสริฟ ชาร้อน ให้ผู้โดยสารไฟล์ ปารีส, ลอนดอน หรือ มิลาน อยู่ ให้ลึกลงไปภายใจจิตใจ
ให้มองเห็นภาพตัวเองประสบความสำเร็จ ปล่อยให้ตัวเองได้ฝัน ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันเริ่มต้นจากตรงนี้ !
8.ทำให้ดีที่สุด แล้ว รู้จักปล่อยวาง
Do your best then let it go
ห้พยายามให้เต็มที่ ให้ถึงที่สุด แล้วผลจะออกมาอย่างไร ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของมัน เราทำเต็มที่แล้ว การที่เราเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาคิดมากเกินไปหลังจากผ่านวันสัมภาษณ์มาแล้ว มีแต่จะทำให้เสียขวัญ กำลังใจ เรื่องผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ใครๆ ก็ทำผิดกันทั้งนั้น อย่าเอามาเก็บคิดมากค่ะ แทนที่จะเสียเวลาไปคิดมากกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ พี่อยากให้น้องๆ เอาเวลามาคิดดีกว่าว่า ถ้าไม่ผ่านรอบนี้ รอบหน้าเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรดี ให้พร้อมมากขึ้นในการสัมภาษณ์รอบหน้า : CV ที่ดีเยี่ยม , รูปที่คมชัดสวยงามดูโปรเฟสชันนอล, ฝึกซ้อมแนะนำตัวเกริ่นนำแบบน่าติดตาม, หาวิธีแสดงออกว่าเป็นผู้ที่มีทัศนคติที่ดี รู้จักช่วยเหลือ เอื้ออาทร ในวันสัมภาษณ์นั้นๆดีกว่าค่ะ
จดไว้บ้างว่า ที่ผ่านมาในวันสัมภาษณ์ เราได้ทำอะไรไปบ้าง แล้วสามารถทำออกมาอีกให้ได้ดีกว่าเดิม แล้ว ได้ทำอะไรไปที่ตัวเองพอใจบ้าง เขียนออกมาให้หมด หลังจากทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ ทำใจให้สบาย อย่าไปคิดมากค่ะ เพราะเราทำได้ดีแล้ว แค่พาตัวเองพร้อมไปสัมภาษณ์ในวันนั้น พี่ว่าน้องๆก็ทำได้ดีแล้วค่ะ จงภูมิใจในตัวเอง แล้วรอฟังผลการสัมภาษณ์
ในส่วนที่ต้องทำ เราก็ได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว คราวนี้ ก็เพียงแต่รอผลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในส่วนนี้เราควบคุมมันไม่ได้
มันมีหลายต่อหลายปัจจัยที่จะทำให้ได้งานนี้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของสายการบินเองที่มักจะมีกฏเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง หรืออาจจะเป็นเรื่อง ประสบการณ์ของน้องๆที่มันจะต้อง ผ่านทุกเช็คมาร์ค ของสายการบิน น้องก็จะได้รับงานนี้ไปอย่างแน่นอน แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็ขอให้น้องๆ ได้เรียนรู้ จากประสบการณ์การไปสมัครในครั้งนี้ แล้วจำไว้เป็นบทเรียนว่า อะไรจะช่วยทำให้เราได้เข้าใกล้ความฝันของเรามากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้เราได้ขยับเข้าใกล้ฝันนี้ให้มากขึ้น
พี่หวังว่า 8 เคล็ดลับนี้ จะสามารถสร้างความมั่นใจ ให้น้อง ไปสัมภาษณ์แอร์ สัมภาษณ์สจ๊วต ได้อย่างเชื่อมั่นใจตัวเอง และ นับถือตัวตนของน้องๆ นะคะ
แต่เคล็ดลับทั้งหมดนี้ มันจะเป็นจริงไม่ได้เลย ถ้าน้องๆ ยังไม่เริ่มทำ
อย่าคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะมีชีวิตดีๆ หากน้องยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ตั้งแต่ เริ่มพูด Positive Affirmation หรือฝึกถามตอบคำถาม น้องๆทำได้ค่ะ สู้ๆ นะคะ
Ploy
สวัสดีค่ะ พี่พลอย ค่ะ พี่ดีใจที่น้องๆ สนใจ ที่เข้ามาเว็บไซต์ ของพี่นะคะ ติดต่อพี่ได้ที่ E-mail : team@airkhaek.com หรือ Facebook : https://www.facebook.com/airkhaek.co ประสบการณ์ชีวิตการทำงานที่ตะวันออกกลาง : https://go.airkhaek.com/qatar-crew-life