แอร์แขก | ประสบการณ์ชีวิตการทำงานที่ตะวันออกกลาง
แอร์แขก
แอร์แขก เป็นชื่อย่อๆ ที่พวกเราไว้เรียกกัน สำหรับ สาวๆ ที่ทำงานกับสายการบินสายตะวันออกกลาง ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน การ์ต้าแอร์เวย์ เอมิเรตส์ เอทิฮัท โอมาน คูเวตแอร์ หรือ รอยัลจอร์แดน แอร์ เป็นต้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า การสมัครแอร์ สายแขกนี้ ไม่ง่าย !! และ การแข่งขัน สูงมาก เพราะสายการบินตะวันออกกลาง (สายแขก) เหล่านี้ มักเป็นสายการบิน 5 ดาว ซึ่งมี ฐานเงินเดือนสูง สวัสดิการดี แถม มีรูทบินเยอะ นั่น หมายความว่า ใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวรอบโลกหล่ะ ก็
ถ้าทำงานกับสายการบินแขก รับรองว่า คุ้ม คุ้ม คุ้ม แน่นอน เพราะตอนนี้ สายการบินเหล่านี้ มี จุดหมายปลายทางทั่วโลกกว่า 170 Destinations และ มีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี
แอร์แขก : ทำไมถึงอยากทำงานกับสายการบินแขก
อยากเป็นแอร์แขก ตั้งแต่กำลังจะเรียนจบ ค่ะ ตอนนั้นคือ คิดในใจว่าอยากเที่ยวไปด้วย ทำงานไปด้วย แล้วสายการบินไหนเค้ามีรูทบินเยอะๆ มั่ง ก็เลยตัดสินใจสมัครแอร์ สายแขกค่ะ
แอร์แขก : เริ่มต้นสมัครแอร์สายแขกนี้อย่างไร?
เริ่มต้นสมัครแอร์ครั้งแรก กับสายการบินการ์ต้าแอร์เวย์ ค่ะ แต่ก็ตกรอบ แล้วก็ ไปสมัครโอมานแอร์อีก ก็ตกรอบ ตกรอบ ล้มลุกคลุกคลานอยู่แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรา ถอดใจ ไปสมัครสายอื่นนะคะ ก็ลองไปสมัครทุกครั้งที่สายการบินมาเปิดรับสมัคร จนสุดท้าย ก็ได้ติดปีก ทำงานกับสายการบินการ์ต้าแอร์เวย์ ค่ะ
คุณสมบัติแอร์แขก
คุณสมบัติด้านภาษาอังกฤษ ที่สายการบินกำหนด คือ “Fluency in written and spoken English” นั่นคือ ต้องทั้ง พูด และ เขียน คล่องด้วยซึ่งตอนที่เราไปสมัคร ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองพูด หรือ เขียนเก่งอะไร แต่แค่เราสื่อสารรู้เรื่อง เลยเอาตัวรอดได้แต่พอเป็นแอร์มาแล้วรู้สึกว่าเราต้องใช้ภาษาอังกฤษ ทุกวัน จึงทำให้ เรารู้สึกว่าเก่งภาษาอังกฤษขึ้น ก็จากการเป็นแอร์นี่แหละค่ะ
สำหรับแอร์สายตะวันออกกลาง นะคะ อายุขั้นต่ำ คือ 21 ปี (Updated March 2020) นะคะซึ่งสายการบินแขกนั้นไม่มีกำหนดอายุสูงสุดที่จะสามารถสมัครได้สำหรับใครที่อายุ 30++ แต่เพิ่งอยากจะเป็นแอร์หล่ะก็ มาสมัครสายแขกได้นะคะ ตราบใดที่คุณ มีคุณสมบัติเพียบพร้อม สายการบินก็รับค่ะ
สายการบินแขก ขึ้นชื่อว่า โหดมากกับการตรวจสุขภาพค่ะถ้าน้องๆมีปัญหาด้านสุขภาพ (โดยเฉพาะเรื่องปอด และ เลือด) มีค่าไม่ได้ตรงตามที่สายการบินกำหนด ก็อาจจะตกรอบได้หรือแม้กระทั่ง บินไปที่เบส แล้ว แต่ถ้ามีการตรวจเจอ ก็อาจจะโดนส่งตัวกลับบ้าน แถมสายการบินก็มี นักจิตวิทยา ของสายการบิน มาสัมภาษณ์โดยเฉพาะ อีกด้วยดังนั้น ดูแลตัวเองให้ฟิตทั้งร่างกาย และ จิตใจนะคะ
สายการบินแขกนี้ ไม่รู้จะโหดเรื่องความสูงไปไหน ค่ะ เพราะเค้าเอาความสูงขั้นต่ำที่ 160 cm ขึ้นไป สำหรับผู้หญิงนะคะ
ซึ่งวันไปสมัคร ถ้าใครที่กรรมการมองว่า สูงไม่ถึง เค้าจะขอให้เราไปทำเอื้อมแตะ ค่ะ ซึ่งรอบนี้ ก็ทำให้หลายๆคนตกรอบมาแล้ว อย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่มีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นแอร์ก่อนเป็นแอร์ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง เข้มงวดขนาดนี้
แต่พอเป็นแอร์ไปแล้วเลยเข้าใจว่า ถ้าสูงไม่ถึง 160 cm เนี่ย มันปิด Overhead Bin / Overhead Compartment ไม่ได้จริงๆนะคะ เพราะมันค่อนข้างสูง
แต่แอบมาบอกว่า!! พอไปทำงานจริงเราก็แอบเห็นรุ่นพี่ที่ตัวเล็กๆ เหมือนกันนะคะ ขอพูดเป็นกำลังใจให้สาวตัวเล็ก เพราะว่าถ้าฝึกเอื้อมแตะ ถึง ก็อาจจะมีโอกาสไปทำงานกับสายการบินแขก นี้ได้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ขอรับประกันนะคะ
แอร์แขก : มีสวัสดิการอะไรให้บ้าง
นอกจากเงินเดือนที่สูงแล้ว สาวๆแอร์แขก ก็มีสวัสดิการที่ดีเยี่ยมอีกด้วย มาดูกันว่าพวกเราได้อะไรบ้าง
- บ้านพักฟรี ซึ่งเราจะต้องแชร์กับเพื่อนแอร์อีก 1-2 คน โดยแต่ละคนจะได้ห้องนอนส่วนตัว แต่ว่าจะต้องแชร์ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น กับรูมเมท (สามารถย้ายตึกไปอยู่กับเพื่อนได้ภายหลัง)
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ฟรี
- บริการรถรับส่ง ทุกครั้งที่ไปทำงาน
- บริการซักผ้ารีดผ้า (ซักชุดยูนิฟอร์มฟรี)
- ประกันสุขภาพ ทั่วโลก
- ตั๋วพนักงาน
- ได้ประสบการณ์พักโรงแรมดัง 5 ดาว เมื่อไป Layover
กว่าจะได้เป็นแอร์แขก ต้อง ..
สัมภาษณ์แอร์ให้ผ่าน
เทรนนิ่ง ให้ผ่าน
ถึงจะได้บินจริง !! คุณพระกว่าจะได้บินต้องรอเทรนอีกเป็นเดือนๆ
โชคดีหน่อยที่สายการบินเรา ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ทำให้ระยะเวลาในการเทรนไม่มากนัก เหมือนสายเอเชีย อย่าง สายการบิน JAL เพราะสายนี้ต้องเทรนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มด้วย แต่แอร์สายแขกอย่างเรา จะเทรนแค่
เทรนเกี่ยวกับงานบริการลูกค้า ต้องจำว่าบนคาร์ทที่จะเสริฟ มีอะไรบ้าง อะไรคือคำขวัญของบริษัท ทัศนคติต่างๆ ที่พึงมีในงานบริการมีต้องจำชื่อ ไวน์แดง ไวน์ขาวเรียนขั้นตอนเกี่ยวกับงานบริการต่างๆ ว่าจะต้องทำอะไรบ้างบนเครื่อง
มีการจำลองให้นักเรียนเข็นคาร์ทในห้องเรียน แล้วให้เพื่อนๆในห้อง ซ้อมเป็นผู้โดยสารด้วยนะ สนุกดี ค่ะ เกร็งไปหมดว่าจะพูดอะไร นี่ขนาดซ้อมกันกับเพื่อน
อันนี้โหดสุด แต่ ก็สนุกสุด เพราะต้องใช้จินตนาการเยอะมาก เราจะต้องเรียนเกี่ยวกับ การเปิดปิด ประตูเครื่องบิน การอพยพผู้โดยสาร การดับไฟ (ต้องไปซ้อมดับไฟจริง) ได้ไป Ditching ด้วยที่ดูไบ (สมัยนั้นการ์ต้ากับ อีเค เค้ายังเป็นมิตรกันอยู่)
และจะต้องสอบทุกวัน ต้องจำ Drill หรือ ขั้นตอนต่างๆว่า ถ้าเกิดนี่ขั้น ต้องทำอะไรต่อ อะไรต่อ แบบเป็นขั้นตอนและที่สำคัญ
ได้ทำ Aircraft Walk Around คือ คุณครูเซฟตี้ จะพาพวกเราเดินชม เครื่องบิน แล้วก็สอนว่า อ้า อันนี้นะ เป็นปุ่มเอาไว้ดูว่ามีควันบนเครื่องบินไหม ถ้ากัปตันโทรหาเราในห้องโดยสารจะเป็นเสียง ดิ๊งด่อง แบบนี้ พร้อมกับไฟสีชมพู นะ
มันให้อารมณ์แบบ ถอดรหัสสายการบินอะไรแบบนี้เลย อะไรที่เราเห็นแอร์ทำมาก่อน
ตอนที่ยังไม่ได้เป็นแอร์ แล้ว งงว่า อะไรวะ ทำอะไรกันวะ แบบเป็นคำถามถามอยู่ในใจ ก็จะได้คำตอบในคลาสนี้นี่แหละค่ะสนุกมากค่ะ ชอบมาก แต่เพื่อนๆ หลายคนจะเครียดนะคะ เพราะว่า ข้อสอบยาก 5555
คลาสนี้ อารมารณ์แบบ ค่ายลูกเสือป่ะเนี่ย ให้ตูมานั่งผูกผ้า เป็นการเรียนเกี่ยวกับ การปฐมพยาบาล เบื้องต้น และ ต้องฝึกทำให้ได้จริงเช่นการสอบพันผ้าคล้องแขนในกรณีที่ผู้โดยบาดเจ็บ แขนหัก
แถมต้องมานั่งจำชื่อยา ที่มีบนเครื่องบิน พร้อมกับวิธีการใช้ ต่างๆว่าให้อม หรือให้กลืนได้เลย ตอนกินต้องกินผสมน้ำ หรือว่าอะไรต้องจำอาการต่างๆ ของโรคที่เกิดบ่อย บนเครื่องบิน
โอ้ววววว ไม่คิดว่าจะต้องมาเรียนอะไรแบบนี้ ซึ่งคลาสนี้ สนุกสุด คือการทำ CPR ค่ะ สำหรับเรานะคะ เพราะเราคิดว่ามีประโยชน์มากๆ ในชีวิตจริง อ้อ มีเรียนทำคลอดด้วยน้าาา
ซึ่งตอนเทรน เทรนหนักมาก คือ ต้องอ่านหนังสือทุกวัน เพราะมีสอบทุกวัน เต็ม 100 ผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อ ถ้าผิดมากกว่านั้นถือว่าไม่ผ่าน และถ้าไม่ผ่านหลายๆรอบๆ อาจจะโดนส่งตัวกลับบ้านได้ง่ายๆ ซึ่งใน แบชเรา มีสาวอียิปต์ โดนส่งตัวกลับบ้านจริงๆค่ะอึ้งกันไปตามๆกัน
ซึ่งในแต่ละแบช ก็จะมีหลายๆ ชาติ ปะปนกันไป แบชเรามี
คนไทย 2 คน เกาหลี 2 คน อินเดีย 1 คน อียิปต์ 1 คน (ไม่รวมคนที่โดนเชิญให้ออก) เซ้าแอฟฟริกา 1 คน อินโด 1 คน โรมาเนีย 3 คน
บอสเนีย 1 คน ฟิลิปปินส์ 4 คน ทั้งหมด 16 คน
ผู้หญิงหมดเลย (สายการบินเราแบ่งแยกหญิง ชายตอนเทรนนิ่งสงสัยกลัว เด็กไม่ตั้งใจเรียน 555 ไม่รู้นะเดา)
ได้เริ่มลองเป็นแอร์แขก ครั้งแรก กับ Observation Flight
พอเทรนเสร็จ อาจารย์ ก็จะส่งพวกเราไปบินสังเกตการณ์ หรือที่เรียกว่า Observation Flight โดยพวกเราจะได้ป้ายชื่อว่า Trainee แปลว่า ทำอะไรก็ไม่ผิด 5555 ไม่ช่ายยย เค้าให้ไปเรียนรู้ดูว่า พี่ๆเค้าทำอะไรกัน แหม่ !!
ซึ่งอาจารย์ ก็ประกาศว่า เห้ย Suriya คุณได้ไป Beirut ประเทศเลบานอน โอ๊ยยย แม่เจ้า ตื่นเต้นมากกกก แบบเข้ากูเกิ้ลไป เซื้ดดู เบรุท เป็นประเทศแบบไหนน้าา ลักษณะผู้คนเป็นคนหน้าตายังไง แบบตื่นเต้น
Grooming แอร์แขก
กรูมมิ่ง แอร์แขกเนี่ย เค้ามีกฏ อยู่ด้วยกัน 5 ข้อ ที่แบบไม่มีไม่ได้ ถ้าไม่มีตาม Standard 5 ขิอนี้ อาจจะโดน Off Load ไม่ได้ไปบินได้
Foundation รองพื้น
Blush ปัดแก้ม
Lipstick ลิปสติก
Mascara ขนตาต้องปัด
Nail Polish เล็บมือ
อันนี้เป็น เป็นสิ่งที่ต้องมี ไปบิน แต่สำหรับบางคนที่คิ้วบาง ก็เขียนคิ้วไปด้วย น้าา
ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งแอร์ทุกคนจะต้อง ปฏิบัติตาม โดยจะมี ทีมกรูมมิ่ง มาเช็ค ในทุกๆไฟล์ ก่อนที่ไปบิน ซึ่งนอกเหนือ จากนี้ ที่มักจะโดนเจ๊กรูมมิ่งด่า ก็คือ ลูกผม กระโปรงฟิตเกิน เจ๊คเก็ตฟิตเกิน กระโปรง หรือ แจ๊คเก็ตยับ รีดไม่เรียบพอ
หรือ บางครั้ง อาจจะลามไปเรื่อง มีรอยสิว มีสิวเม็ดที่เป่งเกิน สำหรับผู้ชาย มักจะโดนกันเรื่อง โกนหนวดแล้วเป็นแผลแบบรอยแดงๆ อย่างนี้ ก็จะโดนไม่ให้ไปบิน
เรียกว่า เป็นแอร์แขก ต้อง สวย ถึก ทน และ เอาตัวรอดให้เก่งด้วย มิเช่นนั้น อาจจะไม่ได้ไปบินนะ 5555
แอร์แขก : รายได้
รายได้แอร์แขก จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ฐานเงินเดือน
42,000 บาท (ลูกเรือชั้นประหยัด)
คือจะบินหรือไม่บินก็จะได้ 42,000 บาท ซึ่งลูกเรือแต่ละตำแหน่งก็จะได้ฐานเงินเดือนที่แตกต่างกันออกไปค่าชั่วโมงบิน
ชั่วโมงละ 500 บาท (โดยประมาณ)
ค่าอาหาร (เมื่อบินไปพักนอกเบส)
ได้ตามจริง ตามประเทศที่ไปพัก โดยจะแบ่งออกเป็น ค่าอาหารเช้า กลางวัน เย็น คือถ้าพักนานก็ได้ เยอะขึ้น ไปประเทศที่ค่าครองชีพแพง ก็ได้เงินมากขึ้น เช่น ถ้ามาไทย อาจจะได้ค่าเบี้ยเลี้ยง 2,000 บาท แต่ถ้าไป ญี่ปุ่น อาจจะได้ ค่าเบี้ยเลี้ยง 5,000 บาท เป็นต้น
ซึ่งแต่ละเดือน ลูกเรือ แต่ละคนก็จะเอา ฐานเงินเดือน + ค่าชั่วโมงบิน + ค่าเบี้ยเลี้ยง มารวมกัน ก็จะได้เป็นเงินเดือนของเดือนนั้นๆ
ดังนั้น จะทำให้เงินเดือนของแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะแต่ละคนจะบินใกล้บินไกล ไม่เท่ากัน
โดยเฉลี่ย แอร์แขก จะบินประมาณ 80-100 ชั่วโมง ค่ะ
เงินเดือนต่ำสุดที่เคยได้ คือ 50,000
เงินเดือนสูงสุดที่เคยได้ คือ 120,000
รู้ไหมเป็นแอร์ก็ได้โบนัส นะ!
ใช่ค่ะ ในรอบ 1 ปี ถ้าเราบินครบชั่วโมงบินตามที่บริษัทกำหนด
รู้สึกจะ 1,000 ชั่วโมง อันนี้ไม่ชัวร์นะคะ
ชั่วโมงบินที่บินเกินมา จะคิดเป็นโบนัสค่ะ คือจะได้เงินค่าชั่วโมงบิน x2 ไปเลย ซึ่งอาจทำให้เดือนนั้นๆ ได้เงินเดือนถึง 200,000 ++ กันเลยทีเดียว
แอร์แขก : ชั่วโมงการทำงาน
ชั่วโมงการทำงาน ค่อนข้างหลากหลายค่ะ แล้วแต่ว่าเราได้ไฟล์สั้น หรือ ไฟล์ยาว ซึ่ง
ไฟล์สั้นๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็น ไฟล์ เทรินอราวน์ (Turnaround Flight) ค่ะ นั่นก็คือ ไฟล์ที่จะต้องทำทั้งไป และ กลับ
ส่วนไฟล์ ที่ยาวๆ ส่วนใหญ่จ จะเป็น ไฟล์เลย์โอเว่อ (Layover Flight) นั่นก็คือ ไฟล์ที่จะต้องไปนอนพักค้างคืนนอกเบส
โดยไฟล์สั้นสุดที่มี มีตั้งแต่ 30 นาที
ไฟล์ที่ยาวสุดที่มี คือ 18 ชั่วโมง 5555+
ไม่ต้องกลัวนะคะ เค้าไม่ได้ให้ยืนทำงานตลอด 18 ชั่วโมง เค้ามีเบรคให้พักนอกหลับค่ะ ถ้าจำไม่ผิด จะให้หลับถึง 4 ชั่วโมงเลยน้าา และก็ลงมาทำงานใหม่
เครื่องบินส่วนใหญ่ที่บิน ไฟล์ยาวๆ ก็มักจะมี Bunk Beds ให้ลูกเรือ ขึ้นไปนอนหลับพักผ่อนค่ะ ซึ่งลูกเรือก็จะต้องเตรียมชุดนอนไปนอนด้วย พอตื่นขึ้นมา ก็แต่งหน้า ทำผม ลงมาทำงานต่อแบบเฟรชๆ กันใหม่
ชีวิตความเป็นอยู่ ของแอร์แขก
ชีวิตความเป็นอยู่ของแอร์แขก ที่โดฮา ก็แล้วแต่คนเลยค่ะ โดฮา เป็นเมืองที่มีความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม คนท้องถิ่น เป็นคนน่ารัก แต่ก็มี คนต่างชาติอยู่ซะเยอะ เช่น คนฟิลิปปินโน่ คนอินเดีย คนปากีสถาน คนอียิปต์ ซึ่งพวกเค้าก็มาทำงานเหมือนกับพวกเรานี่แหละ ค่ะ
เวลาไปห้าง จะไม่เห็นคนการ์ต้ารี่ มาทำงานตามแคชเชีย คิดเงินนะคะ เพราะทุกคนรวยมาก รัฐบาลเลี้ยงทุกคนค่ะ ดังนั้น จะเห็นพวกเค้าทำงานให้กับ หน่วยงานของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ทำงานธรรมดาทั่วไป พวกที่ทำก็จะเป็น คนชาติอื่นแทน แม้กระทั่ง แอร์/สจ๊วต ไม่มีชาวกาตารี่ นะคะ อุ๊ย แต่มี นักบินกาตารี่ นะคะ 555+
ในโดฮา ใครที่ทำงานกับสายการบิน การ์ต้าแอร์เวย์ จะถูกมอง ว่า สวย และ รวยมาก 555+ มักจะมีหนุ่มๆ มาบีบแตรใส่ แล้วก็บอกว่าไปกะเพ่ ไหมน้อง ขอบอกว่า อย่าไป !! อันตรายนะคะ
การเดินทางในโดฮา
Karwa Taxi
Uber
Doha Metro
Privated Taxi
ค่าแทคซี่ในโดฮา จะ สต๊าท ที่ 10 เรียว หรือ ประมาณ 100 บาท คิดง่ายๆ นะคะ จะเดินทางไปไหน ก็ เริ่มต้นที่ 10 เรียว
ห้างที่สามารถไปช๊อปปิ้ง ซื้อของกิน ของใช้ ซื้อซิมโทรศัพท์
Villaggio Mall
Mall of Qatar
Mega Mart
City Center
IKEA Qatar
คือจริงๆ มันมีหลาย Mall มากๆ แต่ที่ชอบไป คือที่นี่ ฮิตสุด เห็นจะเป็น Villaggio Mall เพราะว่ามันไปง่าย ไม่ไกล อยู่ในเมือง แต่ก็แล้วแต่ว่า มันใกล้บ้านใครแค่ไหน
ร้านอาหารไทย – ร้านเอเชีย ก็มีเยอะแยะมากมาย เช่นกัน
Khaosan Thai Restaurant
(รุ่นพี่แอร์การ์ต้าเป็นคนเปิดนะจ๊ะ ต้องไปอุดหนุนนะ )
Thai Snacks
Thai Cuisine
Thai Smile
Thai Corner
Jasmine Thai Restaurant
Isaan Thai Restaurant
Yee Hwa Restaurant
Tofu House
ราคา ค่าอาหารไทย หรือ อาหารเอเชีย ที่โดฮา จะค่อนข้างแพง โดยจะสต๊าท ที่ 15 เรียว หรือ ประมาณ 150 บาท
โดยอาหารที่เป็น หมู/ไก่ อาจจะถูกลงมาหน่อยเช่น
ผัดกระเพราเนื้อ ผัดกระเพราไก่ ราคาประมาณ 27 เรียว หรือ 270 บาท แต่ถ้าเป็น ผัดกระเพราทะเล ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย ประมาณ จานละ 32 เรียว หรือ 320 บาท
ถ้าไปทานอาหารกันกับเพื่อนๆ หลายๆ คน สามารถตก มื้อ ละ 400-500 บาทได้ค่ะ เมื่อหารกันแล้ว
ถ้าไปทานอาหารบุฟเฟ่ สามารถตกคนละ 2,000 บาทได้ค่ะ
ยกตัวอย่าง ค่ากาแฟ ในโดฮา จะตกแก้วละ 20 เรียว อัพ หรือ แก้วละ 200 บาท ขึ้นไปค่ะ
สถานที่พาพ่อแม่ญาติพี่น้องเพื่อน ไปเที่ยวโดฮา แบบแอร์แขก
Museum of Islamic Art
The Pearl Monument
Souq Waqif
Katara Cultural Village
National Museum of Qatar
Doha Corniche
Aspire Park
Qatar National Library
สามารถไปดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
ข้อดี ของการมาเป็นแอร์สายแขก
- ได้เที่ยวทั่วโลกของจริง
- ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- รู้จักการปรับตัว
- มีเงินเก็บ (แล้วแต่คนนะคะ บางคนอาจจะมีกระเป๋าเก็บ 55)
- มีโอกาสเจอคนใหม่ๆ รวมทั้ง แฟน หรือ คู่ชีวิตเลยก็ได้
รู้สึก ดีใจที่ได้ทำงานกับสายการบินการ์ต้าแอร์เวย์ นะคะ มันเป็นช่วงที่เราได้เรียนรู้อะไรมาก มาย มีทั้งสุข และ ทุกข์ มันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิต ของคนเรามันคืออะไร ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ถือเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ เลย
ข้อเสีย ของการมาเป็นแอร์สายแขก
- ทำงานหนัก
- นอนไม่พอ
- สุขภาพแย่ (ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีพอ)
- ค่าครองชีพสูง
- เหงา คิดถึงบ้าน
เหรียญมันก็มี 2 ด้านเสมอ เป็นแอร์แขก มันก็มีข้อเสียเหมือนกันค่ะ อยู่ที่ว่าเราจะจัดการกับข้อเสียเหล่านั้นได้มาก หรือ น้อย อย่างไร บางคนอยู่ได้ สนุกกับการเที่ยว เผลอแป๊บๆ ทำงานเป็น 10 ปี แถมยัง Still Enjoy Flying ก็มีให้เห็นอยู่เยอะมาก แล้วแต่บุคคล จริงๆค่ะ
ประสบการณ์ประทับใจ
ประสบการณ์ที่ประทับใจมากที่สุด ตั้งแต่เป็นแอร์สายการบินแขก มาคือ ไฟล์ที่ทำไปเมือง Tbilisi ประเทศ Georgia คือเป็น ไฟล์ที่หนักมาก เพราะต้องบินจาก โดฮา ไป บากุ ก่อน แล้ว จาก บากุ ไปต่อที่ ทบิลิซี ประเทศ จอร์เจีย แต่ลูกเรือ น่ารัก มากกก พวกเรา 4 คนเข้ากันได้ดีมากๆ ทำงานสนุกจริงๆค่ะ แถมโรงแรมที่ไปพัก ก็อยู่กลางใจเมือง อากาศก็ดี อาหาร ก็อร่อย พอทำงานเสร็จ พวกเราไปเที่ยวชมเมืองกันต่อ แถมตื่นเช้ามา ก็มารวมตัวกันไปกินข้าวเช้านอกเมืองต่ออีก
และ ที่ประทับใจอีกอย่างคือ เมือง ทบิลิซี่ เนี่ย เค้าดังเรื่องไวน์ ใช่ไหมคะ พอแลนด์เสร็จ กำลังต่อแถม ต.ม. เข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ ต.ม. ก็ตรวจพาสปาร์ตเสร็จ แล้วก็แจก ไวน์แดง ลูกเรือคนละขวด ให้เอาไปชิม มีที่ไหน !!! 555+ คือแบบ ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกจริงๆ
เชื่อหรือไม่คะว่า เพื่อนๆลูกเรือ สำคัญมาก ถ้าเราเคเมตรงกัน เมื่อไหร่ ไม่ว่าไฟล์จะแย่ขนาดไหน แต่เราก็รับมือมันได้เสมอ
10 ไฟล์ของแอร์แขก ที่ชอบที่สุด ?
อันนี้ขอเลือก ไฟล์ที่ผู้โดยสารน่ารัก Destination ดีนะคะ
- โอซาก้า , ประเทศญี่ปุ่น
- ฮาเนดะ , ประเทศญี่ปุ่น
- โคเปนเฮเกน , ประเทศเดนมาร์ก
- โซเฟีย , ประเทศบัลแกเรีย
- เคปทาวน์ , ประเทศแอฟริกาใต้
- มิวนิค , ประเทศเยอรมัน
- บากุ, ประเทศอาเซอร์ไบจาน
- โรม, ประเทศอิตาลี่
- มิลาน, ประเทศอิตาลี่ (จริงๆไม่ได้ชอบมิลาน ชอบเมืองข้างๆ 5555+ เมืองโคโม่)
- นิวยอร์ค , ประเทศอเมริกา
วันที่ไม่ได้มีไฟล์บิน ทำอะไร?
นอน นอน นอน นอน
ส่วนใหญ่วันที่ไม่ได้บิน ก็จะนอนพัก หรือ ออกไปทานข้าวที่โดฮา บางคนชอบไปนวด หรือไปทำเล็บ พักผ่อน ถ้าเพื่อนหยุดวันเดียวกัน ก็อาจจะมีออกไปทานข้าว นั่งดริ๊งกันบ้าง (ซึ่งไม่ค่อยทำ55+)
แต่ถ้าหยุดนานๆ เกิน 2 วัน พวกเรามักจะชอบ ออกนอกโดฮากัน
อันนี้ก็แล้วแต่คนนะคะ บางคนชอบกลับไทย บางคนชอบไปเที่ยวยุโรป ทริปใกล้ๆ 2 วัน 1 คืน อะไรก็ว่าไป
แอร์แขก กับการซื้อของ
คือ ด้วยความที่เมืองโดฮา ประเทศ การ์ต้า นั้นเป็นเมืองทะเลทราย ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ลูกเรือที่ได้ออกนอกประเทศการ์ต้า แบบเราๆ ก็มักจะช๊อปปิ้ง ของกินกัน นอกโดฮา และ หิ้ว กลับมากินต่อที่หอ เสมอๆ บางครั้งอาจจะไม่เรียกว่าหิ้ว อาจจะเรียกว่าแบก 555+
ยิ่งไฟล์ประเทศแบบญี่ปุ่น ที่ของกินสุดแสนจะอร่อยนะ พวกเรานี่ แบกกันยับเลยค่ะ ขาไปจากโดฮา ไป ญี่ปุ่น กระเป๋า โล่งมาก ขากลับนี่ ลากกันล้อแทบจะไม่เลื่อนเลย อิอิ
ไปเมืองไหน ประเทศไหนต้องซื้อ อะไรมาดูกัน
หรือพวกเราเรียกไฟล์เหล่านี้ว่า ไฟล์การกุศล เหตุผลก็คือ ทำงานละไม่ได้ตังค์ หมดไปกะอีของที่ซื้อนี่แหละ ค่ะ
- ปารีส : Bioderma, L’occitane, Clarins,Homeoplasmine,Caudalie
- ญี่ปุ่น : SKII , Three, Shu Uemura ,ของกิน ขนม
- อเมริกา : ขนม, Victoria Secrets, Baht and Body, Whey, อาหารเสริม, โอรีโอ้ (มันมีหลายรสดีอ่ะชอบ), Cerave เครื่องล้างหน้า Foreo สั่งของจากเว็บโดยตรง ให้ไปส่งที่โรงแรมตอนแลนด์ อิอิ ได้ราคาถูก ไม่โดนชิปปิ้ง หิ้วกลับมาโดฮาเอง เลิศไปอี๊ก ใครไปอเมริกาบ่อยๆ มีสิทธิ์ พัง !! 555+
- เยอรมัน : ไส้กรอก (คตอร่อยมีหลายรสชาติมาก) , ช๊อคโกแลต ใครบอกช๊อคโกแลตสวิสอร่อย มาลองช๊อคโกแลตเยอรมันยัง 555+ มันคือช๊อคโกแลตแบบเคลือบบนเวเฟอร์ แครกเกอร์ โอ๊ย พัง , Eucerin, วิตามินซีเม็ดฟู่Das Gesunde Plus (คตถูก) ต้องตามหาซุปเปอร์ อย่าง lidl ร้านขายยา dm รองเท้า Birkenstock
- อังกฤษ : เสื้อผ้า Topshop Primark, คุ้กกี้ ขนม ของกิน ชา ใน Mark and Spencer เครื่องสำอางค์ Charlotte Tilbury, Bodyshop Lush Rimmel London รองเท้า Clarks
- เกาหลี : ขนม ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะ สตอเบอรี่ อร่อยมากๆ Espoir, Innisfree , IOPE, Laneige, Sulwasoo, History off Whoo Skin Food, โอ่วเยอะค่ะ
อาหาร และ ขนมพื้นเมืองแขก ในโดฮา ที่ต้องลอง เมื่อมาถึง
Kunafa (ขนมคูเนเฟ่)
คือ ขนมแขก ที่ อร่อยมาก เป็นขนมที่ทำมาจากชีส แล้ว ก็ถั่วพิตาชิโอ้ จะทำในถาดร้อนๆ อุ่นๆ ไม่หวานเกิน ด้านบนให้ความกรอบ หอมพิตาชิโอ้ หาซื้อได้ตาม Souq Waqif ชื่อร้าน Al Aker Sweets
Karak Tea
เป็นชาของอินเดีย ที่กลิ่นหอมชามากๆ รสชาติหอมมัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินชา ส่วนมากจะเสร์ฟแบบร้อนๆ (ไม่เคยเห็นแบบเย็นเลยจริงๆหง่ะ) เหมาะกับการทานคู่ กับ จาปาติ ที่กำลังจะแนะนำต่อไปด้านล่างค่ะ 55
Chapati
จาปาตี ก็คือขนมปังแผ่นบางๆ เหนียวนุ่ม เหมือนโรตี นั่นแหล่ะค่ะ ซึ่งเค้าจะเอาไปทอดให้กรอบๆ สามารถสั่งแบบหั่นมาแล้ว หรือ ห่อม้วนเหมือนโรตีได้ ร้านที่คนไปทานเยอะมาก รวมทั้ง Drive Thru กลับบ้านคือ ที่ Katara Cultural Village ชื่อร้าน Chapati & Karak ค่ะ คนเยอะตาหลอด แถมมีสาขาที London ด้วยนะคะ
Arabic Crepe เครปแขก หรือ เครปป้า
เพราะป้าๆเป็นคนทำค่ะ มันอาจจะมีหลายร้าน แต่เราไปอยู่แค่ ตรง Souq Waqif ค่ะ ป้าๆ ชุดดำ จะมาขายตอนเย็นๆ จนถึงค่ำๆ มีหลายรสชาติ ทั้งชีส ทั้งน้ำผึ้งชีส นูเทล่า กล้วย ตัวแป้งเครปมัน ไม่เหมือนที่อื่น อร่อยดี ราคาถูกมาก
Shawarma
คือเหมือน Wrap ของฝรั่งอ่ะค่ะ จะเป็นแป้งแผ่นกลมๆ ห่อด้วยเนื้อย่าง ไก่ย่าง แล้วแต่ชอบ หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วใส่ผัก และ ซอสต่างๆ สไตล์แขก เป็นอาหารที่ทานง่าย เหมือน Grab and Go มา บินมาหน่อยๆ หิวๆ ก็สั่งเอาได้หลาย มีขายหลายร้านค่ะ
Kebab Grilled Mix
เป็นเนื้อปรุงรส ที่ย่างกับไฟ มักจะมีทั้ง กุ้ง ไก่ เนื้อวัว และ เนื้อแกะ ทานคู่กับขนมปังเช่นกัน ร้านที่แนะนำไปทานเลย คือร้าน Al Khaima Restaurant อยู่ตรงถนน Al Sadd St ร้านนี้ขนมปังจะมาแบบยาวมากๆ อร่อยทุกอย่าง รวมไปถึง Hummus และ Tabbouleh (เป็นสลัดสีเขียวๆ ทำมาจาก พาสลี่สับ มะเขือเทศ และ บีบมะนาวเลม่อน รสชาติสดชื่นค่ะ) ด้วยค่ะ
Lamb Kofta
ลักษณะเป็นเนื้อบด ก้อนๆ ที่เอาไปย่างไฟ มักจะเสิร์ฟ คู่กับ ผักสด และ ขนมปังร้อนๆ ทานกับขนมปัง บีบมะนาว บางคนทานกับโยเกิร์ต ด้วย อร่อยมาก อย่าลืมไปลองกันนะคะ อาหารอาหรับอร่อยนะคะ
Laban Drink
เป็นเครื่องดื่ม เหมือนโยเกิร์ต หรือ คีเฟอร์ เวอชั่นดื่มได้ หอมๆ มันๆ เปรี้ยวนิดๆ มีเสิร์ฟบนเครื่องบินด้วยนะคะ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ว่ากันว่าดีต่อสุขภาพมากๆ ลองดื่มครั้งแรกบนเครื่องเนี่ยแหละค่ะ รุ่นพี่จากชั้นธุรกิจ เอามาให้ตอนสมัยเทรนใหม่ ติดใจเลยค่ะ
ค่าครองชีพใน โดฮา กาตาร์
ค่าครองชีพในโดฮา ประเทศกาตาร์ ถือว่าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในประเทศไทยค่ะ เพราะเป็นประเทศทะเลทราย ที่จะต้องนำเข้าสินค้า อุปโภค บริโภค ทั้งหมดจากต่างประเทศ
ค่าใช้จ่ายของการอยู่ที่โดฮา ในฐานะ ลูกเรือ ที่จะต้องจ่ายหลักๆ คือ
- ค่่าเน็ต มือถือ (แล้วแต่คน)
- ค่าไวไฟบ้าน (หารกันกับเมท)
- ค่าเดินทาง (สำหรับวันหยุดอยู่โดฮา)
- ค่ากิน อาหารนอกบ้าน
- ค่ากับข้าว
- ค่าของใช้
- ค่าสังสรรค์ (แล้วแต่คน)
ใน 1 เดือน เราจะต้องเดินทางเข้าๆ ออกๆ ประเทศกาตาร์ อยู่ตลอด เพราะต้องไปบิน ทำให้เดือนๆ นึงเนี่ย อาจจะอยู่ โดฮา เพียง 10 – 15 วันเท่านั้น
โดย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซักรีด ยูนิฟอร์ม สายการบินออกให้ ค่ะ
Ploy
สวัสดีค่ะ พี่พลอย ค่ะ พี่ดีใจที่น้องๆ สนใจ ที่เข้ามาเว็บไซต์ ของพี่นะคะ ติดต่อพี่ได้ที่ E-mail : team@airkhaek.com หรือ Facebook : https://www.facebook.com/airkhaek.co ประสบการณ์ชีวิตการทำงานที่ตะวันออกกลาง : https://go.airkhaek.com/qatar-crew-life