Statement of Purpose (SOP) คือ การเขียนบรรยาย ที่แสดง จุดประสงค์ และ เจตนาที่แท้จริง ในการตัดสินใจ ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นิยม เอาไปใช้ เพื่อเป็น เอกสาร เข้ามหาวิทยาลัย ในระดับ ปริญาโท การขอทุน ป.ตรี เรียกสั้นๆว่า SOP

Statement of Purpose ใช้ใน การสมัครเรียน ป.โท และ การขอทุน

ในการสมัครเรียนต่อ ปริญาโท หรือ ปริญาตรี ที่ต้องการขอทุน ไปเรียนต่อใน มหาวิทยาลัยต่างประเทศ มักจะโดนขอให้เขียน SOP เพื่อ เป็น การเขียนแนะนำตัวเอง เข้ามหาวิทยาลัย

ซึ่งในการสมัครเข้าเรียน ในระดับสูง ทั้งใน มหาวิทยาลัยในประเทศไทย และ มหาลัยต่างประเทศ นั้น ให้ความสำคัญกับ Statement of Purpose ของนักเรียน เป็นอย่างมาก ในการพิจารณา รับนักเรียน นักศึกษา เข้าไปสมัครเรียนในสาขา และ คณะนั้นๆ

เพราะการเรียนในระดับสูง อย่าง ป.โท หรือ การขอทุน เป็นการเรียนที่เฉพาะทาง เค้าต้องการนักเรียนที่ เข้ากับวัฒนธรรมการเรียน และ สังคม ของการเรียนใน มหาวิทยาลัย ของเค้าได้ ยิ่ง มหาลัยดัง มีโควต้า เก้าอี้ในการรับนักเรียนที่จำกัด Essay: Statement of Purpose นี้ ก็ยิ่งสำคัญมาก ที่อาจารย์ จะเอามาเป็นตัว คัดเลือก นักเรียนเข้าไปเรียนใน มหาวิทยาลัยนั้นๆ

อ้าวแล้วทีนี้ เราจะ เขียน Statement of Purpose ยังไงให้สร้าง ความโดดเด่น น่าสนใจ และ มีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะพาน้องๆ เข้าคณะ และ มหาวิทยาลัยในฝัน ได้

วันนี้เรามี 10 เทคนิค วิธีเขียน Statement of Purpose ให้ได้การตอบรับ จากมหาวิทยาลัย มาบอก เพื่อให้

• SOP ของคุณดู โดดเด่น และ มีน้ำหนัก
• SOP เป็นที่จดจำ ถูกใจ ของอาจารย์ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าเรา
• SOP แสดงถึง ความจริงใจ ในเจตนาของเราว่า ทำไมเราถึงอยากเรียน กับมหาวิทยาลัย ของเค้า
• SOP ของน้อง ต้องเป็น เรื่องจริง และ ไม่โกหก เพราะจะมีการสัมภาษณ์ หลังจากนั้น

ก่อนจะเริ่ม จับปากกา เขียน Statement of Purpose หรือ SOP เราต้องทำการบ้านก่อนว่า เราจะต้องรู้ก่อนว่า จุดประสงค์ในการเขียน SOP นี้ คืออะไร อาจารย์ที่อ่าน SOP ของเราเนี่ย เค้ากำลัง มองหาอะไรจาก จดหมายแนะนำตัว ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ฉบับนี้ ของเรา เค้าอยากที่จะรู้อะไร ซึ่งนี่คือสิ่งที่น้องๆ ต้องตอบให้ได้ ก่อนที่จะเริ่มเขียน ก็คือ

• ตอนปริญญาตรี เรียนอะไรมา
• ทำไมถึงสนใจเรียนสาขา วิชานี้
• ทำไมเลือกที่จะเรียน สาขานี้ กับ มหาวิทยาลัยเรา
• ทำไมเลือกที่จะเรียนในประเทศนี้?
• คุณมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในการเรียนสาขานี้มาก่อนรึเปล่า?
• เคยทำงาน หรือ เรียนอะไรมา ถึงทำให้สนใจเรียน วิชานี้ เหรอ?
• อ้าว ถ้าคุณมีประสบการณ์ ด้านนี้มาแล้ว คุณคิดว่า สาขาเรา จะช่วยให้คุณเรียนรู้อะไรได้เพิ่มเติมเหรอ ?
• แล้วถ้าเรียนจบ จะเอา ความรู้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ยังไงต่อ
• จบแล้วจะทำวิจัยต่อ หรือ จะทำงานบริษัทหล่ะ
• ทำไมคุณคิดว่าเราควรเลือกคุณ

นี่คือ คำถามคร่าวๆ ที่น้องๆ จะต้องตอบให้ได้ ก่อนที่จะเขียน Statement of Purpose ค่ะ ให้น้องๆตอบคำถามทีละข้อ แล้ว สร้างให้เป็นเรื่องราวของเราเอง ว่า เราเป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง เพราะอะไรถึงอยากเรียน จุดเปลี่ยนในชีวิตอะไร ที่ทำให้อยากเรียนที่นี่

เหมือนน้องๆ จะต้องนั่งทางใน หยุด นิ่งๆ นั่งคิด กับตัวเอง ก่อนว่า เฮ้ย ทำไมเราถึงอยากเรียน หรือ สนใจที่จะเรียนสาขานี้นะ เป็นการ Reflect ตัวเองด้วยถ้าเราสามารถ ผูกเรื่องราวเหล่านี้ได้ จะทำให้ กรรมการ หรือ อาจารย์ที่อ่าน SOP ของเรา ผูกพันธ์ กับเรื่องราวของเรามากขึ้น

การทำให้ SOP  ของเราน่าจดจำ เราต้องเขียนเหมือนกับเรากำลังเล่าเรื่อง อยู่ ให้ใช้การพรรณา ให้เห็นภาพ มากกว่า การบอกเป็นการบรรยายว่า ฉันคือ… ฉันเก่งด้านนี้ ฉันทำอันนี้มาก่อน ไม่ๆ เราจะไม่เขียนด้วยการบรรยาย เราต้องเขียนพรรณา ความรู้สึกเหล่านั้นออกมา ให้ผู้อ่านรับรู้ถึงความรู้สึก ราวกับ เข้าไปอยู่ในเรื่องราวของเรา อินไปกับเรา สร้างจินตนาการให้ผู้อ่าน รู้สึกราวกับว่า เขาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ

การเขียนแบบนี้จะทำให้ ดูน่าจดจำมากขึ้น

เวลาเขียน SOP พยายาม อย่า เอาเหตุผล ทั่วๆไป ที่ไม่หนักแน่นพอ มาสนับสนุน เรื่องราวของเรา จงเขียน เหตุผลที่เฉพาะเจาะจงลงไป สิ่งที่คุณเขียน คุณจะต้องรู้จริงในเรื่องนั้นๆ อย่างละเอียด อย่าใช้คำสวยหรู ที่เป็นเหตุผลกว้างๆ มาเขียนสนับสนุนเรื่องราวของตัวเอง อย่าพูดเหตุผลกว้างๆ แค่ว่า อยากสมัครเรียนวิชานี้เพราะว่าชอบสาขานี้ โดยไม่ได้อธิบายว่า ทำไมถึงชอบเรียนด้านนี้ เพราะ การเรียนลงลึงลงไปในด้านนี้ เฉพาะเจาะจงลงไป แบบเชิงลึก ในระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก แล้ว เราจะต้องสนใจด้านนี้จริงๆ จนมีเหตุผล ที่ตัดสินใจอยากทำงานด้านนี้ไปตลอดชีวิต

สามารถตอบได้อย่างตรงไป ตรงมาได้ โดยให้ลองถามตัวเองว่า ทำไมคุณถึงสนใจที่จะเรียนสาขานี้ ที่แท้จริง

เวลาเราเขียน SOP หรือ ไม่ว่าจะเอกสารใดๆ ก็ตาม เราไม่ควรที่จะโกหก เพราะว่า หลังจากที่เรายื่น เอกสารสมัครงาน เหล่านี้ไปแล้ว แล้วคุณได้รับคัดเลือก ให้เข้าไป เรียนต่อในมหาวิทยาลัย อาจจะมีการสัมภาษณ์ กับ อาจารย์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง อาจารย์ จะเอาเรื่องราวที่เราเขียนเหล่านี้แหล่ะ ค่ะ มาถาม ดังนั้น เราจึงไม่ควร เขียน อะไรที่ไม่ใช่ความจริงลงไปนะคะ

การทำการบ้านเยอะๆ หาข้อมูลเกี่ยวกับ วิชาที่จะไปเรียน ที่มหาลัยนั้นๆ จะช่วยทำให้เรา สามารถมีข้อมูลมาเขียนได้มากขึ้น ยิ่งเราเข้าใจเท่าไหร่ ว่าการที่จะไปเรียนในสาขานั้นๆ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง จะทำให้เราสามารถ เขียน SOP ได้ในหลายๆมุมมองที่เป็นของเรา

ช่องทางในการหาข้อมูล ในการเขียน SOP คือ

• รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ
• หาบุคคลที่เคยจบจาก มหาวิทยาลัยนั้นๆ แล้วติดต่อสัมภาษณ์
• ข้อมูลใน เว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัย
• ข้อมูล จาก เว็บไซต์ Reddit ตั้งคำถามเกี่ยวกับคนที่เคยจบมาจาก มหาวิทยาลัยนั้นๆ
• เพจ Facebook ของมหาวิทยาลัย

เทคนิคการเขียน Statement of Purpose คือต้องเขียน และ อ่านหลายๆ รอบ ถ้ายังไม่ครบ 30 รอบ แปลว่ายังไม่ดีพอ 55 อันนี้เป็นกฏของพี่เอง ค่ะ จริงๆแล้ว พี่ก็แค่อยากให้น้องๆมั่นใจ ว่าน้องได้ SOP ที่จะช่วยให้น้องได้เข้ามหาวิทยาลัย อย่างแท้จริง

เวลาเราเขียน SOP เราควรที่จะเขียน แล้วก็หยุดไปวันนึง แล้วกลับมาอ่านอีก ถ้าทำแบบนี้จะทำให้เราหา จุดบกพร่อง ของการเขียนของตัวเองได้ ดียิ่งขึ้นค่ะ

สำหรับน้องๆ ที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ สามารถติดต่อ อาจารย์ ที่เราสนิทคุ้นเคย เพื่อปรึกษา อาจารย์ เกี่ยวกับ วิธีการเขียน SOP ว่าน้องมีแนวทางการเขียนอย่างไร ทำการบ้านไปก่อน แล้ว ปรึกษาอาจารย์ว่า หนูสนใจ ที่จะ เข้าเรียนที่นี่ สาขานี้ คณะนี้ ของ มหาวิทยาลัยนี้ เพราะว่าเหตุผ ดังนี้ อยากที่จะเขียนประมาณนี้ อาจารย์ คิดว่าอย่างไร

การปรึกษาอาจารย์ ไม่ต้องการให้น้อง ปรึกษา เพียงแต่ การใช้ภาษา แต่ สิ่งที่อยากให้ปรึกษา มากที่สุด คือ แนวคิดของเรา ว่าโอเค ไหม กับการที่ จะเขียนแนวนี้ สำหรับการเข้าเรียนในสาขานี้

การเขียนเอง อ่านเอง ทำคนเดียว โดยที่ ไม่ได้ให้เพื่อนๆ ลองอ่าน อาจจะทำให้เรา ไม่เห็นจุดบอด ของตัวเองก็ได้ การที่ให้เพื่อนๆ ช่วยอ่าน จะช่วยให้น้อง ได้เห็นในมุมมองอื่นๆ ที่ต่างกันออกไป

น้องๆควร เลือกให้ เพื่อนที่ น้องคิดว่า เพื่อนเค้า มีความสนใจในสาขาที่น้อง อยากเรียนเหมือนกัน เข้าใจหัวอกว่า ถ้าอยากเข้าไปเรียนที่นี่ต้องรู้อะไรบ้าง แล้วก็ไม่ควร ให้เพื่อนอ่านมากเกินกว่า 2 คน เพราะเพื่อนแต่ละคน อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปมาก เราควรเลือกเพื่อน ที่ มีบุคลิกภาพ ทางความคิด คล้ายๆ กับเรา ที่เค้าเข้าใจเรามากที่สุด

การเขียน SOP ให้ดี จะต้องมีจุดหักเห ของเรื่อง ที่เป็นประเด็น ให้เราสนใจ ที่จะเรียนสาขานี้ ซึ่งตรงจุดหักเห นี้ สามารถเป็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสำคัญๆ ในชีวิตเราได้ หรืออาจจะเป็น โมเม้นต์ โมเม้นต์หนึ่งที่เรา ปิ๊งขึ้นมา กับเหตุการณ์ธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวันก็ได้ค่ะ เ

ยิ่งระดับ ปริญญาโท หรือ การขอทุน เราควรที่จะเขียนเรื่องราวเหล่านั้นให้เป็นเรื่องราวของตัวเอง ให้มากที่สุด ไม่ควรก๊อปปี้ ไอเดีย เดิมๆ จากอินเตอร์เน็ต ที่ไม่ใช่ตัวเรามาเขียน มันจะทำให้เราเขียนได้ยากขึ้น เพราะมันไม่ใช่เรื่องราวของเรา แถมถ้ากรรมการคุ้นกับเรื่องราวเหล่านี้ มาก่อน เค้าก็จะรู้ได้ว่า เราเอามาจากอินเตอร์เน็ต นี่ไม่ใช่ตัวตนของเรา

เวลาเขียน SOP เราควรเขียนให้เป็นเรืองของตัวเอง ย้อนกลับไปดูคำถามด้านบน ว่าทำไมถึงอยากเรียนสาขานี้ จะช่วยทำให้น้อง หาคำตอบมาเขียนได้ดียิ่งขึ้น

ถ้าน้องๆ อยากจะพัฒนา การเขียนตัวเอง สามารถศึกษาได้จาก หลักการเขียนจากหนังสือต่างๆ อย่าลืมว่า อย่าไปกังวลกับ แกรมม่า มากกว่า เนื้อหา หรือ Main Idea ของสิ่งที่เราจะสื่อ การเขียน SOP ที่ดี เราจะต้องสื่อความเป็นตัวเราออกมา จากการ พรรณาเรื่องราว ปูเรื่องราว เริ่มต้น หาปมปัญหา และ จุดหักเห นำมามายังเหตุผล ที่สร้าง impact ได้ว่า เพราะเหตุใด เราถึงสนใจที่จะเรียนสาขา นี้ ทั้งหมดนี้คือ เนื้อหา หรือ content ที่น้องควรจะสื่อ ซึ่งสามารถหา หนังสือมา ฝึกเขียนได้

หนังสือที่ดี จะสอนเรา เขียนบรรยายเรื่องราวได้อย่าง น่าสนใจ และ น่าติดตาม ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้น และ สัมผัสเราได้ จากเรื่องราวที่เราเขียน นะคะ

พี่ขอแนะนำ หนังสือ สำหรับ ฝึก เขียนภาษาอังกฤษ

1.Escape Essay Hell! A Step-by-Step Guide to Writing Narrative College Application Essays
ของ Robinson, Janine ซื้อได้ที่

2.Heavenly Essays 50 Narrative College Application Essays That Worked
ของ Robinson, Janine ซื้อได้ที่

ลองดูนะคะ สองเล่มนี้ จะเน้นการเขียน สำหรับ การเขียนเพื่อศึกษา ต่อโดยเฉพาะ