ทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เป็นช่วงโควิท19ที่เราทุกคนตอนนี้ พยายามหันปรับตัว มาทำงานจากที่บ้านกัน แต่จะทำงานที่บ้านอย่างไร ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และให้ได้งาน

การทำงานที่บ้าน จะให้ผลอย่างดียิ่ง ก็ต่อเมื่อ คุณพยายามหาแรงผลักดันในการทำงาน แต่ก็ยังรักษาสมดุลในเรื่องสุขภาพ และ เวลาชีวิตส่วนตัวเอาไว้ด้วย (ไม่ใช่เอางานมาทำที่บ้านได้ ก็ทำหามรุ่งหามค่ำ ไม่กำหนดเวลาทำงาน) เราสามารถกำหนด ชีวิตการทำงานที่สมดุลได้

ตารางการทำงานที่บ้าน ควรพยายาม ยึดตารางการทำงานให้คล้ายกับการไปทำงานที่ที่ทำงานให้มากที่สุด โดยจะต้องแบ่งเวลาให้ชัดเจน โดยไม่เผลอไปทำงานบ้าน หรือ ทำงานอย่างอื่น ที่นอกเหนือจากงานที่เราจะต้องทำจริงๆ แต่ด้วยความที่เราทำงานจากที่บ้านไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปไหน อาจจะเพิ่มระยะเวลาในพักกลางวัน แล้ว ทำงานให้ยาวนานขึ้น ก็ทำได้ค่ะ ทั้งนี้ตัวเราเอง ต้องจัดสรร เวลาให้ดี และ ทำตามตารางเวลาที่จัดสรร จริงๆ ซึ่ง เราสามารถวัด Performance ของเราเองได้ ด้วยแอปนี้ Rescue Time ค่ะ

ทำงานที่บ้าน นอกเหนือไปจากการจัดเวลาว่าจะต้องเริ่มทำงานจากที่บ้านกี่โมงแล้ว แต่การที่คุณตื่นเช้าขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อหาเวลาให้ตัวเอง เช่น การชงกาแฟ รดน้ำต้นไม้ยามเช้า หรือ แม้แต่การออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งยามเช้า ก่อนที่จะกลับมาอาบน้ำ แล้วมานั่งทำงานกันอย่างเฟรซ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณ สดชื่นมากขึ้น และ พร้อมที่จะเริ่มวันทำงานที่ Productive ของคุณ

กิจกรรมที่น่าทำ เมื่อทำงานจากที่บ้านยามเช้า

• นั่งสมาธิ
• ออกไปจ๊อกกิ้ง
• เล่นโยคะยืดเส้น
• ทำอาหารเช้าทานเอง
• ให้ข้าวน้องหมา น้องแมวเอง
• ปั่นน้ำผัก เพื่อสุขภาพ

เพราะว่าทำงานที่บ้าน เราก็ควรที่จะตั้งกฎพื้นฐานกับคนในบ้านด้วย เช่นเวลานี้ เราจะต้องทำงาน ต้องโฟกัสกับเรื่องงาน กรุณาอย่าเรียก ให้ไปทำอย่างอื่น เพราะอาจจะทำให้เสียสมาธิกับเรื่องงานได้ เราต้องรู้จักเคารพเวลาของผู้อื่น และ ที่สำคัญจะต้องเคารพเวลาการทำงานของตนเองด้วย

รวมถึงการเล่นกับสัตว์เลี้ยง ด้วยอันนี้เราต้องสร้างกฏ บอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยเล่นกับน้องๆ หลังจากทำงานเสร็จ แบบนี้เป็นต้น

ตัวอย่างกฏ ที่ต้องคุยกับคนในบ้าน เมื่อเราต้องทำงานจากที่บ้าน

• ไม่เรียกใช้งานบ้าน ในขณะที่เราทำงานอยู่
• ไม่ส่งเสียงรบกวน
• ไม่ทำอาหารรบกวน (มันเสียสมาธินะคะ ทำงานอยู่ได้กลิ่นอาหารเนี่ย)

เมื่อเราทำงานที่บ้าน เราก็ต้องกำหนดเวลาพักเบรค ไว้ให้ตัวเองด้วยเช่นกัน การพักเบรค เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่อ กระปรี้กระเปร่า มากขึ้น และ จะช่วยให้หลีกเลี่ยง จากโรคออฟฟิสซินโดรม หรือ การนั่ง หรือ ทำอะไรนานๆ ได้ การที่คุณกำหนดเวลาพักให้ตัวเอง จะช่วยให้คุณ ได้ลุก นั่ง ยืน เดิน มากขึ้น และ จะลดอาการบาดเจ็บ จากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ นานๆ ด้วย

คุณสามารถหยุดพัก 15 นาที แล้วไปทำกิจกรรมงานบ้านต่างๆได้ เช่น เดินไปล้างจาน เดินไปซักผ้า เอาผ้าลงตะกร้าผ้า ได้ทำงานบ้านไปในตัวด้วย

การทำงานที่บ้าน เราควรกำหนด และ วางแผนให้ชัดเจนว่า ในวันๆหนึ่ง เราจะต้องทำงานอะไรให้เสร็จบ้าง และ จะต้องมาวัดกันจริงๆว่าเสร็จไหม ไม่เสร็จเพราะอะไร

เราควรวางแผนการทำงานล่วงหน้า อาทิตย์ ต่อ อาทิตย์ และควรจะทำให้เสร็จตามกำหนดแผนการ

ในแผนการทำงาน สามารถจัดสิ่งนี้ร่วมเข้าไปด้วย เช่น

• วางแผนทำสิ่งที่สำคัญก่อน เป็นลำดับขั้น
• พยายามวางแผนทำสิ่งที่ยากก่อน แล้วค่อยทำสิ่งที่ง่ายๆไว้ในช่วงท้ายๆของวัน เพราะคนเราส่วนใหญ่มักจะมีพลังงานในตอนเช้าเยอะกว่า
• ให้รางวัลตัวเอง หรือ ให้พักเบรค กับตัวเองระหว่างวัน

การทำงานจากที่บ้าน เราต้องหันมาเป็นนายตัวเอง และ มีระเบียบวินัยกับตัวเองให้มากขึ้น เพราะเราไม่มีหัวหน้า คอยมาตรวจเช็คงานของเรา ดังนั้น เราเนี่ยแหละค่ะ ที่จะต้องคอยเช็ค Performance การทำงานของตัวเอง

บางคน ทำงานที่บ้านที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชุดนอน หรือ กางเกงในตัวเดียว ถ้าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ Why Not? ทำไมหล่ะ ก็ทำได้ แต่ถ้าเป็นช่วงที่จะต้องทำงานจริงจังๆ และ อยากได้งานให้เสร็จ

เราก็ควรแต่งตัว ให้เหมือนกับวันที่เราเดินทางไปทำงานจริง ถึงแม้ว่า การทำงานที่บ้าน เราไม่ได้เดินทางไปพบปะ เพื่อนร่วมงานที่บริษัท หรือ หัวหน้างาน เหมือนกับ สำนวน ภาษาอังกฤษที่บอกว่า Dress How You Want to Be Address ก็คือ แต่งตัวให้ได้เหมือนคนที่คุณอยากจะเป็น นั่นเอง

เช่น ปกติอยู่บ้านอาจจะไม่แต่งหน้า แต่ วันนี้ทำงานที่บ้านก็อาจจะแต่งหน้าสักหน่อย ให้เหมือนไปทำงานจริงๆ แถมเป็นการ Motivate หรือ แรงกระตุ้นจากจิตสำนึกภายใต้จิตใจ ให้เรารู้สึก กระปรี้ กระเปร่า ในการทำงานมากขึ้นด้วย

บางครั้งเราก็อยากจะทำงานบนเตียง หรือ บนโซฟา เพราะมันนิ่มนั่งสบาย แต่ ขอแอบบอกเลยว่า การทำงานบนเตียงหรือโซฟา นุ่มๆ นั้น อาจจะทำให้ คุณไม่ Productive หรือ มีแรงจูงใจในการทำงานลดลง นะคะ

โดยเฉพาะ กับอาชีพ ที่จะต้อง คิดเยอะๆ วางแผนการตลาด งานที่ต้องใช้ความคิดทั้งหลาย เราควรจัดมุมเล็กๆ ในบ้านที่เหมาะสำหรับการทำงานเอาไว้ด้วย

การจัดบ้านให้เหมาะสมกับการทำงาน มีคำแนะนำดังนี้

• หาตำแหน่งมุม ที่มีแสงจากธรรมชาติ เข้าถึง
• ลงทุนหาโต๊ะ และ เก้าอี้ดีๆ
• ทาสีห้อง หรือ เลือกวอลเปเปอร์ ที่คุณชอบ
• จัดแสงให้น่านั่ง ทำงาน อาทิเช่น อาจจะซื้อ โคมไฟตั้งโต๊ะ มาเพิ่ม ให้ดูอบอุ่น มากขึ้น หรือ อาจจะ ติดโคมไฟ ให้ส่องสว่างมากขึ้น

พยายามจัด มุมทำงานให้ตัวเองรู้สึก สดชื่น น่านั่ง ไม่คับแคบ cozy

การเปิดเพลง เป็น Background ก็จะช่วยให้คุณเพิ่มโฟกัส ในการทำงานมากขึ้น คุณสามารถเปิดเพลง ที่ไม่มีคำร้อง อาจจะเป็น เพลงดนตรีเฉยๆ ที่จะช่วยให้คุณเสริมสร้างสมาธิ

คำที่ช่วย Search หา อาจจะเป็น

• Productivity Music
• Classical Music
• Nature Music
• Cinematic Music

มันไม่เหมือนกับที่ออฟฟิศ ที่จะมีแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดห้องให้ แต่การทำงานที่บ้าน การกินกาแฟ แก้วหนึ่ง สองแก้ว เราก็จะต้องเป็นคนล้างทำความสะอาดแก้วเอง

หรือแม้แต่ เศษกระดาษที่ตกลงพื้น โต๊ะทำงานที่รกไปด้วยกองเอกสาร สายชาร์จแบต ต่างๆ เราก็ต้องคอยจัดระเบียบ ปันฝุ่น พยายามรักษาความสะอาด ของโต๊ะทำงาน ด้วยตัวเอง

เราควรอย่างน้อย ทำความสะอาดทุกสัปดาห์ หรือ ทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ เพื่อ ทำให้บรรยากาศ ในการทำงานนั้นรื่นรมย์ แถมถ้าต้องมีการคุยวีดีโอคอล ประชุมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็จะดูเรียบร้อย อีกด้วย

วิธีง่ายๆในการทำความสะอาดโต๊ะทำงาน คือ

• เอาขยะที่อยู่บนโต๊ะทิ้งไป
• อะไรที่ไม่ควรอยู่บนโต๊ะทำงานให้เอาออกไปเก็บให้เข้าที่
• ปัดฝุ่นด้วยไม้ขนไก่
• อย่าลืมปัดฝุ่นที่คียร์บอร์ และ เมาส์ ด้วย
• เศษฝุ่นที่พื้น ก็ควรกวาด หรือ ใช้เครื่องดูดฝุ่น
• พยายาม มีของบนโต๊ะ ไม่เกิน 3 ชิ้น เช่น มือถือ นาฬิกา โคมไฟ เป็นต้น

การทำงานที่บ้าน สิ่งที่น่ากลัว ที่สุดคือ การที่เราไม่สามารถแบ่งเวลาให้ดี และตัวขโมยเวลาที่น่ากลัวที่สุด ก็คือ มือถือ ของเรานั่นเองค่ะ เราไม่ควรเสียเวลา ไปกับการนั่งตอบแชทไลน์ หรือ เลื่อนฟีดหน้าเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม นะคะ

ควรระมัดระวัง และ จำกัดเวลาในการเล่นมือถือ