ตัวอย่าง CV

ก่อนที่จะเริ่ม เขียน CV (Curriculum Vitae) เพื่อสมัครงาน หรือ เรียนต่อ นั้น เราจะต้อง หา ตัวอย่าง CV ที่ มาเป็น CV ตัวอย่าง สำหรับ การเขียนในการสมัครงาน หรือ สมัครเรียน ของเราก่อน เพื่อเป็นแนวทาง ว่าเราจะเขียน CV ของเราให้ออกมาเป็น รูปแบบไหน

โดยเฉพาะ สายงานที่ ต้องการความเฉพาะเจาะจง ในรายละเอียด ของประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เพื่อให้ กรรมการ บริษัท หรือ อาจารย์ ใน มหาวิทยาลัย ได้พิจารณา ประวัติโดยย่อ ของเราอย่างละเอียด

เอกสาร CV จะเอามาใช้เป็นอย่างมาก ในการสมัครงาน ในต่างประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือ แคนนาดา ซึ่งจะเอามาใช้แทน การยื่น เรซูเม่ โดยใน CV จะมีข้อมูล อื่นๆ เฉพาะทาง ที่เราต้องการนำเสนอ มากกว่าในเรซูเม่ เช่น Office Address/Professional Membership/Post Graduate Training /Licensure and Certification/Honors and Awards/Teaching Experience เป็นต้น

CV  คืออะไร มีความสำคัญยังไง ในการ สมัครเรียนต่อ หรือ สมัครงาน?

CV ย่อมาจาก Curriculum Vitae คือ เอกสารที่นำเสนอประวัติส่วนตัว และ ประสบการณ์การทำงาน และ ทักษะทางวิชาชีพ ผลงานทางวิชาการ และ การวิจัย ประกาศณียบัตร รางวัลที่ได้รับ และ ใบอนุญาติ หรือ ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น โดยจะต้อง เขียน เรียงลำดับ ให้ อ่านง่าย มี Format เดียวกันทั้งหมด เพื่อ นำเสนอ ให้กับ บริษัท หรือ มหาวิทยาลัย ในการพิจารณาเราเข้าไปเรียนต่อ หรือ ไปทำงานด้วย

ซึ่ง CV มักจะใช้ใน การสมัครเรียนต่อ หรือ สมัครเข้าไปทำงาน ในสาขาที่เป็นวิชาการ เช่น แพทย์ นักวิจัย อาจารย์ หรือ สายงานเฉพาะ

ตัวอย่าง CV

ความแตกต่างระหว่าง CV กับ Resume

  • CV กับ Resume แตกต่างกันอย่างไร ?
  • เราจะใช้ CV หรือ Resume ในการสมัครงานแบบไหน?
  • เราจะ รู้ได้ไงว่าใคร เหมาะที่จะใช้ CV หรือ Resume?

Resume คือ เอกสารที่ระบุ ประวัติส่วนตัว ของคุณ ซึ่งจะมีความยาว 1-2 หน้ากระดาษ มากสุด โดยเนื้อหาใน Resume จะระบุ จุดเด่นๆ ของคุณในการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา และ ทักษะที่จำเป็น รางวัลที่เคยได้รับ ความสามารถพิเศษในการทำงาน หรือ หัวข้ออื่นๆ ที่เป็นจุดเด่น ของเรา เพื่อ ยื่น Resume ให้กับ นายจ้าง (HR ฝ่ายบุคคล) หรือ ยื่นให้กับ มหาวิทยาลัย ที่ต้องการ

CV หรือ Curriculum Vitae คือ เอกสาร ที่ระบุ ประวัติส่วนตัวของคุณเช่นกัน หัวข้อต่างๆ ก็จะเหมือนกับการเขียน Resume แต่เรา สามารถเพิ่ม มีหัวข้ออื่นๆ ที่จำเฉพาะ และ จำเป็น กับสายงานของคุณ แบบลงรายละเอียด ได้มากกว่า มักนิยมใช้ สำหรับบุคคล ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านวิชาการ โดยความยาวของ CV สามารถเขียนยาวกี่หน้าก็ได้ แล้วแต่ ประสบการณ์ทำงาน และ สิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่คุณต้องการระบุ นิยมนำมาใช้ สำหรับงาน ตำแหน่ง วิชาการ เช่น หมอ พยาบาล การไปเรียนต่อ Fellowship Program เป็นต้น

CV เหมาะ กับ ใคร

เหมาะกับ บุคคล ที่มีประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้าน และ ประสบการณ์เหล่านั้น มีผล ต่อการสมัครเรียน ต่อยอด หรือ สมัครเข้าทำงาน เฉพาะทาง ซึ่งจะมี หัวข้อที่ย่อย ลงออกไป

CV นิยมเขียน ด้วยโปรแกรมอะไร

CV นิยมเขียนด้วย โปรแกรม Microsoft Word จะมี รูปถ่ายสมัครงาน หรือ ไม่มีรูปถ่ายสมัครงาน ก็ได้

การเขียน CV จะต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง

Resume ตัวอย่าง

ในนี้ จะเป็น ตัวอย่าง การเขียน CV ภาษาอังกฤษ ในการสมัครงาน หรือ สมัครเรียน ว่าจะมีต้องมี เนื้อหา หรือ หัวข้อ ใน CV อะไรบ้าง

ซึ่งเวลาเราเลือก หัวข้อ หรือ ข้อมูล ที่จะระบุ ลงไปใน ซีวี ของเรา เราควรเลือกจาก สิ่งที่เกี่ยวข้อง กับ ตำแหน่งงานที่เราจะสมัคร หรือ เป็นข้อมูล ที่จะสามารถแสดงศักยภาพ หรือ ความเชื่อมั่น ให้กับ บริษัท หรือ มหาวิทยาลัย ว่าเรา เคยมีประสบการณ์ทำงานอะไรมาบ้าง รวมไปถึง ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลด้านการศึกษา รางวัลที่ได้รับ ทักษะความสามารถพิเศษ

เรียกได้ว่า น้องมีอะไรดี สามารถเอามาเขียนใส่ ใน CV ได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ แต่ จะต้องจัดการข้อมูล ในการเขียนให้ดีด้วย

Checklist หัวข้อใน CV ควรจะมี ข้อมูล

    • Personal Details และ Contact Information

      ข้อมูลส่วนตัว (Personal Details) ที่นิยมเขียนใน CV คือ ชื่อ นามสกุล / สัญชาติ /ตำแหน่งงานปัจจุบัน /สำหรับ วันเดือนปีเกิด ศาสนา และ เพศ (ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ โดยเฉพาะ การสมัครงานต่างประเทศ ในแถบ อเมริกา ยุโรป ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความเท่าเทียม เค้าจะไม่นิยมให้ระบุ นะคะ แต่ถ้าจะระบุ ก็ไม่ผิดอะไร)
      ช่องทางการติดต่อ (Contact Information) ควรใส่ เบอร์โทรศัพท์/ อีเมล/ที่อยู่ปัจจุบัน/ ที่อยู่ที่ออฟฟิศ/ถ้าเป็นหมอ ก็ควรใส่ โรงพยาบาล ที่สังกัดและทำงานอยู่ และ สมัยนี้ ควรใส่ LinkedIn ไปด้วย
      อ่านต่อ LinkedIn คืออะไร

    • Educations

      ประวัติการศึกษา ล่าสุด ขึ้นก่อน โดยควรที่จะเขียน เป็นช่วงเวลาปีการศึกษา ให้ชัดเจน เป็นปี คศ และ จะต้องระบุ สาขา ภาค ที่เรียน และ มหาวิทยาลัย ไม่ควรเขียนเป็นประโยคบอกเล่า ว่า I graduated from ABC university. แต่ควร เขียนขึ้นต้น เป็น Action Verb แทน

    • Professional Experience

      ประสบการณ์การทำงาน เฉพาะด้าน ของสาขาอาชีพของตนเอง ตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน ว่าเคยไปทำงานที่ไหนมาบ้าง ระยะเวลาทำงานเมื่อไหร่ ถึงเมื่อไหร่ เดือนอะไร ปี ค.ศ อะไร และ ทำอะไรบ้าง ในช่วงที่ทำงาน ซึ่งควรระบุ หน้าที่ที่รับผิดชอบ ลงไปด้วย ตรงรายละเอียดจุดนี้ให้ใช้ Bullet Point มาช่วย

    • Honors and Awards

      เกียรตินิยม หรือ รางวัลที่ได้รับ จากช่วงเวลาที่เรียน หรือ ช่วงเวลาในการทำงาน ที่ผ่านมา สามารถเป็น รางวัลพนักงานยอดเยี่ยม เช่น Certificate of Excellent Internship / ได้รับเกียรตินิยม อันดับ 1/ ได้รับเกรียตินิยม อันดับ 2 / รางวัลพนักงานดีเด่น เป็นต้น

    • Skill

      สกิล หรือ ทักษะพิเศษ ในที่นี้สามารถระบุเป็น Professional Skill คือ ทักษะความสามารถพิเศษระดับมืออาชีพ ถ้าเป็นงานที่เป็นสายอาชีพ เฉพาะทาง มีความจำเป็น ต้องใช้โปรแกรม (Software ต่างๆ)หรือ เครื่องมือพิเศษ ต่างๆ ในการทำงาน ถ้าคุณ สามารถใช้ อุปกรณ์ หรือ โปรแกรม เหล่านั้นได้ หรือ ถ้าไม่มี ให้ลองนึกถึง โปรกแกรม Computer พื้นฐาน ที่เราใช้เป็น เช่น Program Microsoft Word, Power Point , Excel เป็นต้น
      ** แต่ถ้าน้องๆ ไม่มี Hard Skill เหล่านี้ พี่แนะนำให้หา Soft Skill มาเขียนแทน สามารถหาตัวอย่าง เหล่านั้นได้ที่นี่

    • Volunteer Activities

      งานกิจกรรมช่วยเหลือสังคม หรือ Volunteer Activities ต่างๆที่น้องเคยเข้าไป ร่วมโครงการ ก็สามารถ เอามาใส่ใน CV ของน้องได้

      ซึ่งหลักการในการคิดว่า จะใส่ หรือ ไม่ใส่ดี ให้มองว่า ถ้าเราเป็น ฝ่ายบุคคล หรือ อาจารย์ ที่อ่าน CV ของน้องอยู่ เค้าจะมองว่าถ้าน้องไปทำ กิจกรรมเหล่านี้แล้ว จะทำให้น้องแสดงถึง คนที่ทุ่มเท และ มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมไหม ถ้าน้องคิดว่า องกรณ์ที่น้องสมัครเข้าไปทำงานด้วย ต้องการคนที่มี ลักษณะเหล่านั้น น้องก็ควรที่จะใส่ลงไปด้วย นะคะ

      ** ซึ่งน้องจะเห็นว่า บางมหาวิทยาลัย ชอบจัดกิจกรรม ให้เราไปค่าย พัฒนาสังคม โน้นนี่นั่น นี่แหละค่ะ มหาวิทยาลัย เค้าอยากให้น้อง มีจิตใจที่นึกถึงสังคม ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์ภายหลัง ในการเขียน CV นี้ด้วยน้า **

    • Publication

      Publication คือ ผลงานตีพิมพิ์ ทางวิชาการ ถ้าน้องเรียนสาย ที่ต้องทำงานวิจัย และ มีผลงานตีพิมพิ์ต่าง นี่เป็นสิ่งที่ดี ที่น้องควรที่จะ เอามาเขียนลงใน CV หรือ Resume ของน้อง มากๆ

      และ พี่ขอแอบแนะนำว่า น้องๆ ควรแนบ ผลงานงานตีพิมพิ์ ที่น้องมี ลงใน โปรไฟล์ Linkenld ด้วย ซึ่งสามารถใส่ลิงค์ ผลงานงานตีพิมพิ์ของน้อง ลงไปใน Linkenld ได้เลย

    • Professional Certification/License

      Professional Certification คือใบรับรองวิชาชีพ
      License คือ ใบอนุญาติทำงาน

      ซึ่ง น้องๆที่ทำงาน สายงานเฉพาะ เช่น หมอ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ วิศวกรทุกสาขา จะต้องมี สอบเอา license เพื่อที่จะปฏิบัติงานได้ หรือ ใครที่ไปเรียนสาขาเฉพาะเพิ่มเติม เฉพาะทาง ก็จะได้ ใบรับรองวิชาชีพ มา น้องๆ ควรที่จะเอามา ใส่ใน CV หรือ Resume ของตัวเองด้วยนะคะ

    • Certificate

      Certificate คือ ใบประกาศนียบัตร หรือ ใบรับรองการผ่านอบรม ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นใบที่่น้อง ได้เข้าร่วมการอบรม และเค้าให้ใบประกาศมา หรือ ใบรับรองยืนยัน ว่าน้องได้สอบผ่าน อะไรสักอย่างหนึ่ง เช่น ใบประกาศผลคะแนนโทอิค ใบผ่านการอบรมวิชากร ใบผ่านการอบรม ISO ระดับต่างๆ

      ถ้ามี ควรที่จะใส่ลงไปใน CV หรือ Resume ของน้องๆด้วย และ อย่าลืมใส่ เดือน และ ปีพ.ศ หรือ ชื่อการอบรม ไปด้วยนะคะ

ปรึกษาทำ CV/ATS Friendly Resume กับแอร์แขก

ตัวอย่าง CV สมัครงาน

cv ตัวอย่าง

20 เทคนิค การเขียน CV ให้ได้งาน

หลักการเขียนชื่อ ใน CV/ Resume นั้นคล้ายกัน

ต้องเขียนชื่อด้วย อักษร ภาษาอังกฤษตัวใหญ่ เช่น SURIYA SAKURAZAWA

สำหรับหน้าแรก จะต้องเขียนด้วยอักษรที่ตัวใหญ่ โดดเด่น สามารถอยู่ตำแหน่งด้านบนตรงกลาง หรือ ชิดซ้าย ของหัวกระดาษ

สำหรับหน้าสอง และ หน้าถัดๆมา น้องๆจะต้องอย่าลืม เขียนชื่อเรา ไว้บนหัวกระดาษด้วย พร้อมระบุ เลขหน้า

ช่องทางการติดต่อ หรือ Contact Details

ก็จะมี เบอร์โทรศัพท์ อีเมล Linkenld แล้ว ก็จะมีที่อยู่ส่วนตัวของเรา นอกจากนี้ น้องสามารถเขียนที่อยู่ ที่ทำงานไปได้ด้วย

ส่วนช่องทางติดต่ออย่าง Line Id/Whatapp/Facebook/Twitter ไม่จำเป็นจะต้องให้ก็ได้ ค่ะ

เวลาเขียน เรซูเม่ หรือ CV น้องๆควรรู้จัก หลักการใช้ ตัวหนา ตัวเอง ต่างๆ ในการที่จะเน้นหัวข้อ หรือ อะไรเด่นๆ ที่เราต้องการจะระบุ จะช่วยทำให้เรซูเม่ และ ซีวี ของน้อง น่าอ่านมากยิ่งขึ้น

ทำให้ HR หาข้อมูลได้ง่าย ไม่หงุดหงิด หาข้อมูลไม่เจอว่า จบอะไรมา ทำงานที่ไหนเนี่ย เค้าจะได้อยากอ่านต่อ นะคะ

หลักการเลือกฟ้อนต์ สำหรับเขียน เอกสารสมัคร งาน ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ พี่แนะนำเลยว่า น้องๆควรใช้ฟ้อนต์ ที่อ่านง่าย และ เป็นสากล

ฟ้อนต์ แนะนำ

เวลาทำ เอกสารสมัคร ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น

ทั้งหมดนี้ จะทำให้ออกมา เนี๊ยบ และ สวยงามได้นั้น น้องๆ จะต้อง รู้จักการจัดหน้ากระดาษให้ดี เว้นช่องไฟ ให้ตรงกัน หมดทั้งกระดาษ จะทำให้เอกสารสมัคร งานเหล่านั้น ของ น้องๆ ดูดีได้ ในทันที เลยหล่ะค่ะ

เวลาเขียน เรซูเม่ หรือ ซีวี น้องๆ เคยสังเกตไหมว่า ใน หัวข้อ ประสบการณ์ทำงาน (Work Experience) และ ประวัติการศึกษา (Education) นั้น น้องจะต้องระบุ เวลา ลงไปด้วย

โดยการระบุเวลา ใน เรซูเม่ และ ซีวี มีหลักการดังนี้

  • จะต้องเป็นการเรียงแบบ chronological คือ การเอาสิ่งที่ทำล่าสุดขึ้นก่อน แล้วตามด้วย สิ่งก่อนหน้า
  • ควรระบุ เดือน ลงไปด้วย ถ้าทำได้
  • ถ้ามี Gap ระหว่างการทำงาน หรือ การศึกษา จะต้องเขียนอธิบายเพิ่มเติม ลงใน Cover Letter ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น
  • การไม่ระบุ ช่วงเวลา จะทำให้ Recruiter สงสัย ว่าทำไม ปีนึงไม่ได้ทำอะไร ตรงนี้เราจะต้องตอบให้ได้ด้วย >> ดูตัวอย่างการตอบคำถามสัมภาษณ์งานเชิงจิตวิทยา ได้ที่นี่

Social Media ที่ควรใส่ที่สุด คือ Linkenld แต่อย่าง Facebook หรือ Twitter ถ้าน้องมี บัญชีที่ เป็นทางการสำหรับการทำงาน ก็สามารถให้ได้ค่ะ

สิ่งที่ต้องพึงตระหนักคือ

  • เราจะต้องไม่พูดหรือ แสดงทัศนคติ ที่ไม่ดีลง สื่อโซเชี่ยวมีเดีย
  • การให้ Social Media ส่วนตัวไปในเรซูเม่ อาจทำให้เกิด เป็น ดาบ สองคมได้ น้องต้องมั่นใจว่า โซเชี่ยวมีเดีย เหล่านั้น ไม่มีเรื่องส่วนตัวจนเกินไป

เนื้อหาใน CV ไม่ควรมีเนื้อหาที่ซ้ำกัน อย่างเช่น น้องได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ ไปทำวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งระบุไปแล้ว ในหัวข้อของ Scholar แต่ น้องก็เอาสิ่งเดิม ไประบุ อีก ในหัวข้อ Research Experiences ตรงนี้อาจจะทำให้ดูซ้ำซ้อน กันได้ นะคะ

ลองตัดสินใจดูว่า จะใส่อันไหนดีกว่ากัน

สำหรับ CV/Resume น้องสามารถเลือกที่จะใส่ หรือ ไม่ใส่รูปก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ แต่ถ้าต้องการจะใส่แล้ว ก็ควรที่จะเลือก รูปถ่ายสมัครงาน / สมัครเรียน เหล่านี้ ที่เป็นทางการสักหน่อย

อ่านต่อ ลายละเอียด รูปถ่ายสมัครงาน

เวลา ทำ CV น้องๆควรนึกถึง การทำ Cover Letter ด้วยในขณะเดียวกัน ว่า เราระบุอะไรลงไปใน CV บ้าง แล้ว อะไรที่เราขาดหายไป ใน CV  แล้วเราอยากจะ อธิบาย เพิ่มเติมตรงจุดนั้น ให้น้อง Note ไว้ในกระดาษ

แล้วเวลาเขียน Cover Letter นั้นจะได้เขียน อธิบายจุดเหล่านั้น ที่เราไม่สามารถ อธิบายได้หมด ใน ซีวี ลงมาใน Cover Letter

ปรึกษาเขียน Cover Letter ได้ที่นี่

ข้อมูลที่เราจะใส่ลงไปใน CV หรือ Resume ควรจะเป็นข้อมูล ที่จำเป็น หรือ เกี่ยวข้อง กับงานที่เราสมัครไป จริงๆ โดยข้อมูลเหล่านั้น ควรเป็นข้อมูลที่ สะท้อน ต่อ ทักษะความสามารถ หรือ บุคลิกภาพ ทัศนคติ ของน้องๆ เท่านั้น

อะไรที่ไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องใส่ เอาแต่เนื้อๆ เท่านั้น

บางครั้งเราต้องการเปลี่ยนสายงาน เปลี่ยนตำแหน่ง ไปทำงาน สายงานที่แตกต่าง ไปจากเดิม น้องๆ จะต้องสามารถวิเคราะห์ สิ่งที่เคยทำมา และ ดึงแต่เฉพาะ ทักษะ และ ประสบการณ์การทำงาน ที่เกี่ยวข้อง กับ ตำแหน่งงานที่จะสมัครใหม่ เท่านั้น

ซึ่ง ตรงนี้บางครั้ง เราอาจจะ จำเป็น มี บุคคล ที่ 3 มาช่วยเราวิเคราะห์ ค่ะ

ติดต่อแอร์แขก ได้ที่ Line : Airkhaek Official เพื่อ วิเคราะห์ ข้อมูลทำเรซูเม่ รายบุคคล

เวลาเขียนข้อมูล อะไรลงไป ต้องมั่นใจ ด้วยว่า เป็นความจริงทุกประการ เพราะ กรรมการ เค้าเช็ค นะคะ

อันนี้ สำหรับน้องๆ ที่ต้องการไปเรียนต่อ หรือ มีรุ่นพี่ที่เรารู้จัก ทำงานใน ตำแหน่ง นั้น ถ้าเป็นไปได้ เราสามารถขอดู ตัวอย่างการเขียน CV ของพี่ๆ เค้าได้ เพื่อ เอามาดูว่า มีแนวทางการเขียน อย่างไร

แล้วก็ใช้ ตัวอย่าง CV เหล่านั้น มาเป็น แบบ ในการเขียนของตัวเอง ค่ะ

การเขียน CV/Resume จะแตกต่าง กับ ลักษณะ การเขียน จดหมายสมัครงาน หรือ Cover Letter ตรงที่

การเขียน CV/Resume : ควรใช้การบรรยาย แบบ บุคคลที่ 3

การเขียน Cover Letter : ควรใช้การบรรยาย แบบ บุคคลที่ 1

ถ้าน้องมี ทักษะความสามารถพิเศษ อะไร มีใบอนุญาติ ไปฝึกอบรมแล้วได้ใบประกาศ ไปฝึกงานได้ได้รับรางวัล อะไรใดๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร ควรใส่ ไว้ใน Resume/ CV ของน้องด้วย
หาตัวอย่าง ทักษะความสามารถพิเศษ ลง ใน เรซูเม่ ได้ ที่นี่

เวลาเรา สะกดชื่อ จังหวัด ชื่อมหาวิทยาลัย ชื่อคณะ น้องต้องมั่นใจว่า สะกดเหมือนกันหมด

ยกตัวอย่างเช่น ใน CV ของน้อง ถ้าน้องสะกด จังหวัดว่า
Pathumthani ก็ต้อง Pathumthani ทั้งหมด

ถ้าจะเว้นวรรคเป็น Pathum Thani ก็ต้องเว้นวรรคทั้งหมด คือ Pathum Thani

จะมาเขียนสลับกันไม่ได้ เลือกใช้อย่างใด อย่างหนึ่ง และ ถ้าอยากมั่นใจ ให้ Search หาใน Google ดูว่า ชื่อทางการของจังหวัด ปทุมธานี นี่เขียนอย่างไร

ถ้าอยากรู้ว่า มหาวิทยาลัย ต้องการ นักเรียนแบบไหน ไปเรียน

ถ้าอยากรู้ว่า บริษัท ต้องการ คนแบบไหนเข้าไปทำงาน

น้องต้องไป อ่าน ใบประกาศรับสมัคร ถ้าไม่มีหรือเค้ายังไม่เปิดรับให้หาข้อมูล จากประกาศเก่าๆ หรือ เปิดหน้าเว็บไซต์ ขององกรณ์เหล่านั้น เพื่อศึกษา และ ดูว่า เค้าต้องการอะไร

อย่าที่พี่บอก ถ้าใน CV ของน้อง มีการระบุเวลา แต่พอดู Timeline ดูแล้ว อ่าวทำไม มันมีปีนึงที่น้องหายไป น้องๆควรที่จะ ระบุ ว่า  1ปี ที่หายไปเนี่ย น้องไปทำอะไร ใน Cover Letter ด้วย

ปรึกษา ทำ Cover Letter จดหมายสมัครงานได้ที่นี่

สำคัญมาก เวลาเขียน Resume หรือ เขียน CV น้องจะต้องให้ความสำคัญ ว่า เอกสารของน้อง Friendly กับ ระบบ ATS นี้ไหม

ซึ่ง จำเป็นที่ น้องควรจะส่ง เรซูเม่ เวอร์ชั่น ที่ดีที่สุด ไปในบริษัท นั้น เพราะ ระบบ ATS นี้จะจดจำ และ จัดเก็บ เรซูเม่ ของน้อง ถ้าส่งอันที่ไม่ดีไป ตั้งแต่แรก มันก็จะเก็บ อันเก่าด้วย ดังนั้น จะส่งอะไรไป เลือกอันที่ดีที่สุด เรียนรู้ระบบ ATS

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ออกแบบเรซูเม่ ให้เป็นมิตรกับ ระบบ ATS ได้ที่นี่

ทำเรซูเม่

ทำ Research ให้ 

 ATS Friendly

ดึงจุดเด่น ให้ตรงกับงาน