ตรวจสุขภาพแอร์ ต้องตรวจอะไรบ้าง ก่อนเป็นแอร์ Medical Check Round
ตรวจสุขภาพแอร์
ตรวจสุขภาพแอร์ หรือ Medical Check
ตรวจสุขภาพแอร์ คือ การตรวจร่างกาย ก่อนที่จะร่วมงานกับสายการบิน ซึ่งจะต้อง ตรวจก่อนที่จะได้เซ็นสัญญา กับสายการบิน ไม่ว่าจะทำงาน สายการบินอะไร ก็จะต้องตรวจสุขภาพ ทั้งนั้น
โดยรายละเอียดในการตรวจสุขภาพ จะแตกต่างกันไปเล็กน้อย แล้วแต่กฏหมายของแต่ละประเทศ ที่เราเดินทางไปทำงานด้วย
โดยส่วนมาก ตรวจสุขภาพแอร์ จะทำการตรวจ หลังจากผ่านการสัมภาษณ์งานรอบสุดท้ายแล้ว เท่านั้น ซึ่งสายการบินจะระบุ มาเลยค่ะ ว่าจะต้องไปตรวจอะไรบ้าง แล้วเราก็จะต้องตามไปตรวจตามนั้น และ ส่งผลสุขภาพของตัวเอง ไปให้กับสายการบิน
โดยสายการบินจะระบุ สิ่งที่จะต้องตรวจ พร้อมทั้ง ระบุ อีเมล ที่จะให้เราส่งผลสุขภาพไปให้ด้วย ไม่ต้องกลัวงงค่ะ แต่ทำตามขั้นตอนเท่านั้นเลย
ตรวจสุขภาพแอร์ จะต้องตรวจกี่รอบ?
- ตรวจเองก่อนสมัคร
- ตรวจหลังจากที่ผ่านรอบไฟนอล
- ตรวจกับสายการบิน
ตรวจสุขภาพเองก่อนสมัคร :
ไม่จำเป็น ต้องไปตรวจเองก่อนก็ได้ค่ะ เราตรวจเพื่อดูว่าเราต้องปรับสุขภาพ อันไหนก่อนไปบิน
ตรวจสุขภาพหลังจากที่ผ่านรอบไฟนอล :
จำเป็น เป็นสิ่งที่สายการบินจะขอให้ไปตรวจ ซึ่งแต่ละสายการบินอาจจะมีรายละเอียด แตกต่างกันออกไปบ้าง
ตรวจกับสายการบิน :
จำเป็น สายการบินจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เอง ที่จะไปตรวจหลังจากบินไปทำงานกับสายการบินแล้ว ตอนช่วงเทรน
ค่าใช้จ่าย ตรวจสุขภาพแอร์ ใครจ่าย?
เราเป็นคนจ่ายค่ะ โดยที่ เราไม่สามารถไปเบิก หรือ ไปเรียกร้องขอค่าใช้จ่ายใดๆ คืนได้ นะคะ เพราะถือว่า เรายังไม่ได้รับเข้าไปทำงานกับบริษัท ดังนั้นเราจะ ไม่ได้สิทธิ์ในการเบิก ค่าใช้จ่าย ตรวจสุขภาพแอร์ นะคะ
แต่ขอแอบกระซิบว่า หลังจากที่เราเข้าไปทำงานแล้ว สายการบินจะดูแลเราดีมาก ซึ่งสายการบินจะ มอบ บัตรประกันสุขภาพทั่วโลกให้ เรียกว่า อุ่นใจ สบายกระเป๋า เจ็บป่วยที่ไหน ก็มีคนดูแลค่ะ
10 รายการ ตรวจสุขภาพแอร์ มีอะไรบ้าง
ตรวจสุขภาพ แอร์ สจ๊วต หลังจากที่ผ่าน ไฟนอล ของสายการบินแล้ว ไม่ว่าจะสายการบินไหนๆ น้องๆ ก็จะต้องส่งผลการตรวจสุขภาพ ไปให้สายการบิน ว่าน้องๆ พร้อมที่จะไปบินกับสายการบินไหมเรียกว่า Fit to Fly รึเปล่า ซึ่งบางสายกาบิน ก็ ซีเรียสกับ โรคบางโรค ซะเหลือเกิน อันนี้พูดจริงนะคะ เรียกว่า ถึงแม้จะสัมภาษณ์ผ่าน แต่ ผลตรวจสุขภาพ ไม่ผ่าน น้องก็ตกรอบนะคะ
ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่า Medical Check นี้มีตรวจอะไรกันบ้าง
1. ตรวจเลือด
เวลาที่เราไปเจาะเลือด ตรวจเลือดนั้น เราจะต้องระบุ กับ แล๊ป ที่ตรวจเลือดว่า ต้องการตรวจอะไรบ้าง สำหรับ การไปทำงานกับสายการบิน ซึ่งน้องๆ ควรจะ รายการการตรวจเลือด เหล่านี้ เพื่อบอกเจ้าหน้าที่ว่า เราจะตรวจอะไรบ้าง
Check List รายการ ตรวจเลือด สำหรับ สมัครแอร์ สจ๊วต
- ตรวจวัดความสมบูรณ์ของเลือด CBC (Complete Blood Count) ที่จะระบุค่าฮีโมโกบินในเลือด (Hemoglobin)
- ตรวจหาโรค ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
- ตรวจหาโรค ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)
- ตรวจหาโรค ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)
- ตรวจเอดส์ (HIV)
- ตรวจซิฟิลิส (Syphilis)
- ตรวจหาโรคธาลัสซีเมีย ตรวจ หรือ ไม่ตรวจก็ได้
- ตรวจ lipid profile (ค่าโคเลสเตอรอล)
- ตรวจการทำงานของตับ Liver Function
ติดต่อแอร์แขก เพื่อ ปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ
วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อ เลือดจาง
หลังจากที่เรา ไปตรวจเลือดแล้ว แล้วพบว่า เลือดจาง ให้น้องๆ เช็ค ระดับฮีโมโกบิน Hb ควรจะเป็น 13-14 up นะคะ ถ้าใครต่ำกว่านั้น แนะนำ ให้ ทานอาหาร เสริม ที่มีธาตุเหล็ก มากๆ เช่น ตับหมู
ควร ตรวจสุขภาพแอร์ก่อน เป็นแอร์ไหม?
สำหรับใครที่อยากจะเอาชัวร์ ที่ขอแนะนำให้ไปตรวจสุขภาพแอร์ ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์แอร์ ด้วยซ้ำนะคะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายไม่ใช่ถูกๆ ราคาเป็นพันอัพ แน่นอน
แต่ทำไม พี่ถึงอยากให้น้องๆ ไปตรวจไว้ก่อน ?
เหตุผล ก็คือ โรคบางโรค เราอาจจะกินยา ช่วยให้เราสุขภาพดีขึ้นได้ แต่เราอาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน ในการทานยา ดังนั้น ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นอะไร หรือขาดอะไร ตั้งแต่เนิ่นๆ เราก็จะได้ แก้ไขได้เร็ว ไม่ใช่รอ ผ่านแอร์รอบสุดท้าย แต่ดั๊นน มาตกตรวจสุขภาพแอร์ เพราะตอนที่วัดนั้นไม่พอกับที่สายการบินกำหนด อาจจะตกรอบได้ง่ายๆ อย่างเช่น ค่าเลือด
หรือบางคนอาจจะเป็นโรคที่ ถึงแม้ว่าจะพยายาม ไปสอบสัมภาษณ์แอร์ จนผ่านรอบสุดท้าย แต่ก็ไม่สามารถไปเป็นแอร์ได้อยู่ดี เพราะ เป็นโรค ที่สายการบินไม่รับ ก็เสียเงิน เสียเวลาฟรีนะคะ
2. ตรวจสายตา
ตรวจวัดค่าสายตา สำหรับการตรวจสุขภาพแอร์ นั้นจำเป็นนะคะ เพราะบางสายการบินโดยเฉพาะแถบเอเชีย จะไม่อนุญาติให้ ลูกเรือ สวมแว่นตา แต่ยังโชคดีที่ สายการบินแขก อย่าง Qatar , Emirates, Oman นั้น อนุญาต ให้ลูกเรือ สวมแว่นตาได้
แต่ จะ ต้องไม่ตาบอดสี
3. ตรวจการได้ยิน
ตรวจวัดการได้ยิน ซึ่งจะต้องทำตามที่แพทย์สั่งว่า จะต้องส่งสัญญาณอะไร เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณใด ตรงนี้ ต้องคอยฟังให้ดีหน่อยนะคะ เพราะพอ ทดสอบๆ ไป เสียงมันเบา ลงเรื่อยๆ
4. ตรวจ T-Spine (ความคดงอของกระดูกสันหลัง)
หลายคนอาจจะงง ว่า จะไปตรวจสุขภาพสมัครแอร์ ทำไมต้องตรวจเช็ค ความคดของกระดูกสันหลังด้วย เหตุผล ก็คือ เมื่อเราทำงานเป็นแอร์แล้ว เราจะต้องอยู่ในที่ความกดอาการสูงๆ ช่องเก็บของต่างๆ ก็อยู่ตำแหน่งที่สูง ถ้าน้องๆ มีกระดูกสันหลังที่คดเป็นทุนเดิม อยู่แล้ว น้องอาจจะมีอาการที่แย่ ลงกว่าเดิม ดังนั้น สายการบินอาจจะไม่รับเข้าทำงานนะคะ
ซึ่ง ใครที่ไม่คดเลย ถือว่าโชคดีมากๆนะคะ
แต่ถ้าใครคด ก็ไม่ควรที่จะคดเกิน 10 องศานะคะ
สำหรับใครพอตรวจสุขภาพแอร์ มาแล้ว แต่ผลปรากฏว่า มีกระดูกสันหลังที่คดเกิน 10 องศา ก็ควรปรึกษาคุณหมอว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
โดยทั่วไปแล้ว คุณหมอจะแนะนำให้ทำกายภาพ หรือ เล่นโยคะ ค่ะ
กระดูกสันหลัง คด เป็นแอร์ได้ไหม ?
น้องๆหลายๆคน พอผ่านรอบไฟนอล สัมภาษณ์งานกับสายการบิน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึง ขั้นตอน ตรวจสุขภาพแอร์ สจ๊วต กัน โดยที่หลายๆคน ก็เคยได้ยินกันมาว่า หาก กระดูกสันหลัง คด เนี่ย อาจจะมี โอกาส ตกรอบ ด่าน Medical Check Round กันเลยทีเดียว
คำตอบคือ น้องๆหลายๆคน ก็ไม่ได้กระดูกสันหลัง ตรง ไม่คดเลย 0 องศา ขนาดนั้น แต่ถ้าคด แล้วเนี่ย แน่นอน ว่าไม่ควรเกิน 10 องศา และ ลักษณะการเดินของน้อง ถ้ามองจากด้านหลัง จะต้อง พอดี ไม่ดูแล้ว เห็นได้ ชัดว่า เบี้ยว แค่นั้นเป็นพอค่ะ น้องๆ
5. ตรวจ X-Ray ปอด
การตรวจ X-Ray ปอดนั้น จำเป็นอย่างมาก และ เคร่งมาก สำหรับใครที่จะเดินทางไปทำงาน ที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง ดังนั้น ถ้าน้องมีจุดเล็กๆ ร่องรอยเล็กๆ ที่ปอดมาตั้งแต่กำเนิด กรุณา ให้คุณหมอ ระบุว่า ไม่ได้เกิดจากโรควัณโรค นะคะ
6. ผลข้อมูลสุขภาพ เกี่ยวกับ โควิด
สำหรับน้องๆ ที่ ผ่านสัมภาษณ์ไฟนอล กับ สายการบินที่สมัคร แน่นอนว่า ตอนนี้ Medical Check ของสายการบิน มีการอัพเดท ข้อมูล และ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ผลตรวจสุขภาพโควิด ซึ่งเช็ค เรื่องต่างๆ ดังนี้
- คุณเคยเป็นโควิดมาไหม
- ได้รับ วัคซีค โควิด ชนิดใดมา
- ได้รับ วัคซีน โควิด มาแล้วกี่เข็ม
- ได้รับ วัคซีน โควิด เข็มแรก และ เข็มที่สอง เมื่อไหร่ (หากใครมีเข็มสาม ก็ต้องระบะ)
ซึ่ง ข้อมูลสุขภาพ เหล่านี้ เป็นข้อมูลให้น้องๆ ได้บอกกับสายการบินว่า ได้รับวัคซีนชนิดไหนมาแล้วบ้าง เพื่อเป็นประวัติให้กับสายการบิน เพราะหาก สายการบินรับน้องเข้าไปทำงานแล้ว อาจจะมี การขอให้ฉีดวัคซีน เพิ่ม เป็นต้น
ดังนั้น น้องๆ ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ควรเป็นใบประวัติการฉีดไว้ดีๆ ด้วยค่ะ
** เงื่อนไขแล้วแต่สายการบิน**
7. ตรวจ น้ำหนัก ส่วนสูง หาค่า BMI มาตรฐาน
เกณฑ์ น้ำหนัก และ ค่า BMI ของสายการบิน แถบตะวันออกกลาง หรือ แอร์แขก นี่ไม่ค่อยซีเรียส เท่าไหร่ นะคะ น้องจะอวบๆ ก็ได้ แต่ ถ้าเป็นสายการบิน ในบ้านเรา หรือ สายการบินเอเชีย นั้น ค่อนข้างซีเรียส กับเรื่องนี้มากๆ เลยค่ะน้องๆ แต่ อย่างไรก็ตาม น้องๆ คนไหนที่ต้องการ สมัครงานตำแหน่งลูกเรือ จะต้อง รู้ค่า BMI ของตัวเองนะคะ ว่ามีค่า BMI อยู่ที่เท่าไหร่
ซึงมันจะมีเกณฑ์บอกอยู่ว่า แบบไหน เรียกผอมไป แบบไหน เรียก อวบไป นะคะ
ค่า BMI น้องๆ จะต้องไม่เกิน 23 และ จะ ต้องไม่ต่ำ กว่า 18 ค่ะ
8. ตรวจความดันโลหิต
ตรวจดู ความดันโลหิต ว่าสูงไหม หลายๆคนอาจจะไม่รู้ตัวเองก็ได้นะคะ บางคน ไม่ได้อ้วน สุขภาพดี แต่ กลับเป็นความดันโลหิต สูง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุ ใดๆ ก็ตาม น้องๆ ก็อาจจะถูกปรับ ตก จาก รอบตรวจสุขภาพ ของสายการบินได้นะคะ
ดังนั้น น้องๆ ไม่ควรที่จะละเลย เรื่องนี้ และ ลองเข้าร้านขายยาดูค่ะ ซึ่ง ร้านขายยา มักจะมี เครื่องวัดความดัน ให้ วัดความดัน ฟรี ค่ะ น้องๆ
ระดับ ความดัน ของคนสุขภาพดี คือ
ความดันตัวบน ต่ำกว่า 120 ความดันตัวล่าง ต่ำกว่า 80
ใครที่สูงกว่านี้ หรือ สูงกว่า 130 ตอนนี้ Update 2021 จาก American Heart Association นะคะ ว่าถือว่า มีภาวะความดันสูง ระดับ 1 แล้ว
ดังนั้นใครรู้ตัวว่า มากกว่า 120 ระหว่างนี้ จนถึง 130 ออกกำลังกาย ด่วน งดเค็ม หัดวิ่ง คาร์ดิโอค่ะ
** อ่านต่อข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ค่าตัวเลขความดันสูง**
9. ตรวจฉี่ หรือ ปัสสาวะ
ปัสสาวะ เป็นการตรวจที่ บอกโรคได้หลายๆ อย่างเลยนะคะ ซึ่ง หนึ่งในนั้น ก็คือ โรคเบาหวาน แน่นอนว่า สายการบิน หรือ บริษัท ที่ไหนไม่ได้ออกมาเปิดเผย อย่างเป็นทางการ หรอกค่ะ ว่า ถ้าคุณเป็นเบาหวาน แล้วเค้าจะไม่รับ แต่ โรคนี้ต้องบอกตรงๆ ว่า ถ้าน้องเป็น แล้ว บริษัท ทราบ หากบริษัท มีตัวเลือก พนักงานมากมาย เหมือนอย่างตำแหน่ง Cabin Crew นั้น น้องๆ ก็อาจจะตก รอบ Medical Check นี้ได้นะคะ
10. ตรวจสุขภาพ ช่องปาก และ ฟัน
ตรวจฟัน และ ช่องปาก ก่อนสมัครแอร์ สายการบิน หรือ บริษัท หลายๆ บริษัท อาจจะได้ Medical Record ตรงนี้ จากน้องๆ นะคะ โดยเฉพาะงานที่มีความเสี่ยง อย่าง ตำแหน่ง Cabin Crew บางครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ สายการบิน ไม่ได้เอาไป พิจารณา เรื่อง Grooming ของน้องๆนะคะ แต่ จะเอาไปเป็น ประวัติ ของผู้เข้าสมัคร เผื่อหาก เกิด อุบัติเหตุ เกิดขึ้น แล้ว จะได้ ตามหา อัตลักษณ์ บุคคลได้ ค่ะ
ส่วนน้องๆ คนไหน ที่ต้องการรู้รายละเอียด เกี่ยวกับ ฟันของแอร์โฮสเตส ว่าจะต้องมีลักษณะแบบไหน
Comment จากหมอ สำคัญมาก ทำให้ ผ่าน / ไม่ผ่าน ได้
ผลตรวจสุขภาพแอร์ นั้นสำคัญมาก ทางสายการบินจะละเอียดมากตรงจุดนี้ ถ้าหมอ Comment ไม่ดี หรือ เขียน อะไรไปสักนิดเช่น มีจุดบางๆ ที่ปอด (ตอนเอกซเรย์ปอด) นั้น อาจจะทำให้น้องตกรอบได้
ถ้าน้องๆ อ่านผลตรวจสุขภาพแล้ว แล้วหมอระบุ Comment อะไรที่น้องๆสงสัย ควรจะปรึกษาแพทย์นะคะ เพื่อถามรายละเอียดต่อไป
โรงพยาบาลที่แนะนำให้ไปตรวจ
ตรวจสุขภาพแอร์
List โรคอะไร ที่เป็นแล้ว มีโอกาส ตกรอบ ตรวจสุขภาพแอร์ Medical Check
อาชีพ แอร์โฮสเตส และ สจ๊วต ถือเป็น หนึ่งในอาชีพ ที่ต้องใช้ ร่างกายเยอะ และ จะต้องติดต่อใกล้ชิด กับผู้โดยสาร อยู่ตลอด สายการบิน จึงกำหนดมาว่า ใครที่เป็นโรคติดต่อ เหล่านี้ จะตกรอบ และ ไม่ผ่าน ในการสมัครงาน แอร์โฮสเตส นะคะ
10 โรคที่เป็นแล้ว มีโอกาสว่าจะไม่ผ่าน รอบ ตรวจสุขภาพ นะคะ
- โรค เอดส์ หรือ HIV
- วัณโรค
- โรคติดแอลกอฮอล
- โรคตาบอดสี
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
- โรคโลหิตจาง
- โรคอ้วน
- โรคหอบหืด
- โรคทางระบบประสาท ภาวะซึมเศร้า
- โรคความดันสูง
** แต่น้องๆคนไหน ที่เป็นโรคเหล่านี้ แล้วต้องการปรึกษา ทักไลน์แอร์แขก ได้นะคะ **
