งานออนไลน์ ทำงานที่บ้าน และ ได้เงินจริง มีอะไรบ้าง

โพสนี้ จะรวม List งานออนไลน์ ทำที่บ้านได้ และ ได้เงินจริง มาฝากน้องๆ ซึ่งจะช่วยน้องๆ ในการ หาตำแหน่งงาน ที่เป็นที่ต้องการของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก งานบางงาน น้องอาจจะ ไม่รู้มาก่อนก็ได้ ว่าเป็นที่ต้องการมากๆ เพื่อที่น้อง จะได้ไปหาความรู้ และ ทักษะพิเศษเหล่านั้น เพิ่มเติม

และโพสนี้ จะยังมาแนะนำ แหล่งเว็บไซต์ หางานออนไลน์ ที่จ่ายเงินจริง เว็บไซต์ไหนเป็นที่นิยม และ มีผลตอบแทนอย่างไร ขั้นตอนกระบวนการในการสมัครเป็นอย่างไร ลักษณะงานออนไลน์ เป็นลักษณะไหน เด็กๆ ยุคใหม่ต้องรู้ เพื่อให้ เด็กไทย ไม่พลาดโอกาส และ โดดให้ทันคลื่นเทคโนโลยี ใหม่ๆ นะคะ

งานออนไลน์ คือ งานแบบไหน?

งานออนไลน์ คือ งานที่เราทำจากช่องทางออนไลน์ โดยที่เรา นำ Digital Skill (ทักษะการทำงาน ของเราทางคอมพิวเตอร์) ไปทำงาน โดยจะมี นายจ้าง และ บริษัท จ้างเราให้ไปทำงาน ในบริษัท หรือ องกรณ์ของเค้า ส่วนใหญ่จะเป็นการเริ่มต้น จ้างงาน แบบ พาร์ททาม (Part-Time) หรือ เป็น จ๊อบๆ ไป แต่ก็มีหลายๆครั้งที่บริษัท จะจ้างเราด้วยช่องทางออนไลน์ แบบ Long Term (พนักงานประจำ ทำงานระยะยาว) ไปเลยก็มี

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ออนไลน์ คือ

  1. คอมพิวเตอร์
  2. อินเตอร์เน็ต

ลักษณะของการทำงานออนไลน์

การทำงานออนไลน์ คือการทำงานใดๆ ก็ตามที่คุณสามารถทำงานได้จากที่บ้าน ร้านกาแฟ หรือสถานที่ห่างไกลต่างๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ ขอให้คุณ มีอินเตอร์เน็ต คุณก็ทำงานได้ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Remote Job 

โดยคุณจะต้องสามารถ ทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิค ต่างๆ ได้ โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบริษัท เลย ตัวอยู่ไทย สมัครงานออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ กับบริษัทในไทย หรือ บริษัทต่างประเทศ ได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่ การหางาน การสมัครงาน การสัมภาษณ์งาน การเทรนนิ่ง การจ่ายเงินเดือน จะทำในช่องทางออนไลน์ ทั้งหมด

งานออนไลน์

งานออนไลน์ แตกต่าง กับ ธุรกิจออนไลน์ อย่างไร

งานออนไลน์ (Earning Money) คือ เราเป็นลูกจ้าง เราจะต้องเอาทักษะความรู้ ทางการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Digital Skill ของเรา  ไปทำงานให้กับบริษัท ได้รับเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทน ตามที่ตกลงกัน

ธุรกิจออนไลน์ คือ (Making Money) การหารายได้ จากช่องทางออนไลน์ โดยที่เราต้องใช้ทักษะความรู้ ต่างๆเหมือนกัน แต่ เราเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องลงทุน ซื้อกล้อง ซื้อไฟ ซื้อไมค์ ซื้อโปรแกรมตัดต่อ วีดีโอ แต่งรูป เช่น การทำยูทูปเบอร์/การทำ TikTok/การเป็น Influencer ทั้งหลายเหล่านี้ เค้าเป็นเจ้าของธุรกิจ มีการลงทุน ไม่มีนายจ้าง เป็นงานที่เป็น เจ้านายตัวเอง

อย่าสับสน และเอามารวมกัน ระหว่างคำว่า งานออนไลน์ กับ ธุรกิจออนไลน์ เพราะมัน ทำจากช่องทางออนไลน์ หรือทางคอมพิวเตอร์เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกันน้าา

งานออนไลน์

ใช้ความรู้ Digital Skill มา หา งานออนไลน์ กันเถอะ

ในยุคนี้ ใครโดดไม่ทันคลื่น การทำ งานออนไลน์ ถือว่าพลาดมากๆ มันหมดยุคแล้วค่ะ ที่เราจะ หาค่าขนม จากการไปขายข้าวไข่เจียว ดีดกีตาร์ร้องเพลง ริมถนน หารายเสริม อันนั้นปล่อยให้เด็กยุค 90 เค้าทำกัน เพราะเด็กรุ่นใหม่ แบบเรา เค้าเอา Digital Skill ไปหา งานออนไลน์ แลกค่าขนมกันแล้ว ดีไม่ดี ได้ทำงานจริงจังเป็นงานประจำเลยก็ได้ นะคะ  แล้ว ..

Digital Skill คืออะไร

Digital Skill (ดิจิตอลสกิล) คือ การใช้ความรู้ ความสามารถพิเศษ ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ ต่างๆ เป็นการใช้ความรู้ในโปรแกรมเฉพาะด้านนั้นๆ ในการตำงานในตำแหน่งต่างๆ เช่น ตำแหน่ง นักการตลาด ก็ต้องรู้การใช้ Facebook Business Manager, Google Analytics เหล่านี้เป็นต้น

ซึ่งเดี๋ยวนี้ Digital Skill เหล่านี้ เรียนได้ฟรี หรือไม่ก็ หา คอร์สออนไลน์ ต่างๆเรียน มีให้เลือกทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ น้องๆไม่ต้อง จบมหาวิทยาลัย หรือ เข้ามหาลัย เพื่อไปเรียน ทักษะเหล่านี้ ก็ได้ เค้าสอนกันฟรีๆ แล้ว เดี๋ยวพี่จะใส่ ลิงค์ ช่องทางไปเรียนฟรีๆ ให้

ดิจิตอล สกิล

5 เว็บไซต์ หางานออนไลน์ ที่ได้รับการยอมรับ และ นิยม

  1. Upwork
    เป็นเว็บไซต์ ที่มีงานให้เลือกทำหลากหลาย ทุกสาย ตั้งแต่งานแปล งานการตลาด งานสร้างเว็บไซต์ ตัดต่อวีดีโอ ลูกค้าสัมพันธ์ งานบัญชี งานเขียนคอนเทนต์ ต่างๆ
    อ่านต่อ รายละเอียด ของ อัพเวิร์ค (Upwork)
  2. Fiverr
    เป็นเว็บไซต์ จ้างงาน และ เราสามารถเปิดรับสมัครงานตาม ทักษะที่เรามีได้ ซึ่ง มีทั้ง งานเขียน งานออกแบบโลโก้ ผลิตภัณฑ์ งานตัดต่อ ภาพ วีดีโอ เสียง งานดาต้า จัดการข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูล สอนหนังสือ สอนเล่นเกมส์ นักดนตรี ต่างๆ เชิญ
    อ่านต่อรายละเอียด เว็บไซต์ ไฟเว่อ (Fiverr)
  3. Indeed
    เป็นเว็บไซต์ ที่มีประกาศรับสมัครงาน ทั้งไม่ออนไลน์ และ งานออนไลน์ ถ้าเป็นงานออนไลน์ ให้เลือกไปที่หัวข้อ Remote Job ซึ่งจะมีประกาศรับสมัครงาน หลากหลายงาน ให้เลือก จากบริษัทชั้นนำ
    อ่านต่อรายละเอียด อินดี๊ด (Indeed)
  4. Freelancer
    เป็นเว็บไซต์ หางานออนไลน์ สำหรับ สาวก ฟรีแลนซ์เซอร์ ก็คือ คนที่ทำงานออนไลน์ นี่แหละค่ะ ออกแบบให้ ผู้หางาน สามารถสร้างโปรไฟล์ ได้ แล้วก็ ระบุ แจ้งว่าเรา ถนัดงานประเภทไหน แถมนายจ้างเว็บนี้ ธรรมดาที่ไหน เค้าเป็น พาร์ทเนอร์ กับ บริษัท ที่สายงายออนไลน์ ทุกคนอยากจะร่วมมือด้วย อย่าง Google, Amazon, Nasa, IBM, Facebook คือบริษัทเหล่านี้ เค้าก็ Outsourcing ฟรีแลนซ์ อย่างเราๆ เหมือนกันนะ
    อ่านต่อรายละเอียด ฟรีแลนเซอร์ (Freelancer) 
  5. Flexjobs
    เว็บไซต์ เฟล็กจ๊อบ ก็ตรงชื่อเลย Flexible + Jobs เป็น แหล่งหา งานออนไลน์ทำงานที่บ้าน ได้ง่ายๆ (เอาจริงๆก็ไม่ง่าย ถ้าไม่มี ทักษะ Digital Skill นะ ฮ่าๆ) เว็บไซต์นี้ เป็นแหล่ง Work From Home/ New Remote Jobs ใหม่ๆ มากมาย นะคะ แถมก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี 2007 และมี พาร์ทเนอร์ จากบริษัทดังๆ มากมายอีกเช่นกัน ตามไป
    อ่านต่อรายละเอียด เฟล็กจ๊อบ (Flexjobs) 

เว็บไซต์หางานออนไลน์ upworkเว็บ หางานออนไลน์เว็บ หางานออนไลน์เว็บ หางานออนไลน์เว็บ หางานออนไลน์


ข้อดี ทำงานออนไลน์

ข้อดี – ข้อเสีย ของ การทำงานออนไลน์

ข้อดี – การทำงานออนไลน์ คือ

  1. สมัครงานได้ทุกที่ ทั่วโลก

    งานออนไลน์น้องสามารถสมัครงานได้ ทุกๆ ตลาดงาน ทั่วโลก โดยอิงพื้นฐาน จากสิ่งที่น้องถนัด งานบางงาน อาจจะไม่ได้เป็นที่ต้องการในประเทศไทย แต่ กลับเป็นที่ต้องการ อีก 100 กว่าประเทศทั่วโลก ทำให้ถ้าน้องมีทักษะในการทำงาน เหล่านั้น ก็จะมีผู้จ้างงาน ตลอดเวลา แบบที่เรียกว่า ไม่รู้จักคำว่า ตกงาน เลยหล่ะค่ะ

  2. ทำงานที่ไหนก็ได้

    น้องสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ บนโลกใบนี้ ขอแค่ให้มี อินเตอร์เน็ต (ความเร็วสูงก็จะดีนะ) กับ คอมพิวเตอร์ ของน้อง น้องอยากจะไปพักผ่อนที่ ภูเก็ต 20 วัน พกคอมไปทำงานด้วยก็ได้ ซึ่งไลฟ์ สไตล์แบบนี้ เค้าเรียกกันว่า Digital Nomad ไงเล่า นั่นก็คือ ชีวิตอิสระ มีงานทำ อยู่ที่ไหนก็ได้

  3. จบอะไรมาก็สมัครได้

    งานออนไลน์ เค้าจะไม่ได้ใส่ใจมากนักว่า จบอะไรมา ตราบใด ที่คุณทำงานที่เราต้องการได้ เนี่ย คุณจะต้องทำ 1-10 พออ่านใบประกาศ รับสมัครงาน ถ้าน้องทำได้หมด ตั้งแต่ 1-10 ก็สมัครงาน โดยที่ บางทีไม่ต้องยื่นเรซูเม่ ด้วยซ้ำ แต่ ต้องเขียน Cover Letter นะ เป็นการ Proof หรือ พิสูจน์ว่า เราทำอะไรมา แนะนำตัวเอง ในการสมัครงาน >> ปรึกษาเขียน Cover Letter 

  4. ได้เงินเป็นดอลล่า

    อัตราการจ่ายเงิน ตามแพลตฟอร์ม ส่วนใหญ่ จะจ่ายเป็น ดอลล่าสหรัฐ ซึ่ง น้องจะได้ค่าตอบแทน ตามมาตรฐานสากล นั่นหมายความว่า 1 ชั่วโมงในการทำงาน อย่างต่ำ จะได้ 5 US Dollar นะคะ แต่ยิ่งถ้าน้องมี ทักษะการทำงานมาก ก็จะได้เงินเพิ่มมากขึ้น ขึ้นอยู่กับ สกิล ที่น้องมี และ ความต้องการของตลาด

  5. เป็นงานที่ยืดหยุ่น

    ลักษณะการทำงานออนไลน์ คือค่อนข้างจะยืดหยุ่น เช่น ถ้ารับงานที่จะต้องทำงาน 30 ชั่วโมงต่อ สัปดาห์ วันจันทร์ ถึง ศุกร์ น้องๆก็สามารถเลือกได้ว่า จะตื่นมากี่โมง ทำงานกี่โมง จะทำดึก นอนเช้า ทำเช้านอนเร็ว ก็ได้ ตราบใดที่ ทำงานครบ 30 ชั่วโมง ของแต่ละสัปดาห์ และ ส่งงานทัน และงานมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย – การทำงานออนไลน์ คือ

  1. ไม่ได้สิทธิประโยชน์

    ส่วนใหญ่จะเป็นงาน Freelance (ฟรีแลนซ์) น้องๆจะไม่ได้รับ สิทธิประโยชน์ เหมือนพนักงานบริษัทที่บรรจุ ทั่วไป เช่น ประกันสุขภาพ ประกันการรักษาพยาบาล เพราะเราจะเป็นเพียง Outsourcing ของเค้า เราจะไม่ได้ สิทธิประโยชน์ ที่พนักงานประจำ จะได้

  2. ต้องคอยหางานอยู่เสมอ

    ถ้าน้องไม่ได้งานที่เป็นสัญญาจ้าง ระยะยาว น้องๆ ก็จะต้องคอยหางานใหม่ อยู่เสมอๆ อาจจะมีรายได้ไม่ต้องเนื่อง และ ถ้าน้องทำงานไม่ดี มีข้อผิดพลาดเยอะจนเกินไป ก็อาจจะถูกเลิกจ้างได้ แบบง่ายๆเลย อันนี้มันอยู่ที่ตัวน้องด้วยค่ะ

  3. ขาดรายได้ประจำ (ถ้าไม่ถูกจ้างทำงานประจำ)

    งานออนไลน์ ก็คือ งาน Freelance ดีๆ นี่แหล่ะ ค่ะ ถ้าต้องรับงานเป็นจ๊อบๆ ไป พอหยุดไม่ได้ทำงาน ก็จะไม่มีเงินเดือน ไม่เหมือนกับพนักงานบริษัท ที่ถึงแม้จะลาป่วย ลากิจ ก็ได้เงินเดือน ทุกๆ สิ้นเดือน ขี้เกียจไม่ทำงาน ก็ไม่มีเงินเดือน

  4. มีการแข่งขันที่สูง

    ในการหางานออนไลน์ แข่งขันกับประเทศอื่นๆ เพราะมันเป็นโลก ที่ใครๆ ก็สามารถ สมัครเข้าทำงานเหล่านั้นได้ น้องๆต้องใช้ความพยายาม ในการหางาน ส่งเอกสารสมัครงาน ไปให้รวดเร็ว หลังจากที่มีการประกาศหางาน สมัครเป็นสมาชิก กับหลายๆเว็บไซต์ และ ต้องรู้จักการเขียน Cover Letter เวลายื่นสมัครออนไลน์ ให้ตรงกับ งานที่ต้องการจะสมัคร

  5. ต้องอัพเดท อยู่ตลอดเวลา

    ไม่รู้ว่าจะเป็นข้อเสีย จริงหรือเปล่า แต่ โลกของงานออนไลน์ บอกเลยว่า มันพัฒนาอยู่ ตลอดเวลา ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้ครบหมดทุกอย่างแล้ว และไม่ได้เสาะแสวง หาความรู้เพิ่มเติมใหม่ๆ หล่ะก็ บอกเลยว่า คุณจะช้า กว่าชาวบ้านเค้าไป 3-4 Step คุณต้องติดตามข่าว การอัพเดท ซอฟแวร์ใหม่ๆ อยู่ตลอด จริงๆ พี่ถือว่าเป็นข้อดี มากกว่าข้อเสียนะคะ อิอิ

สิ่งที่ต้องระวัง การหางานออนไลน์

สิ่งที่ต้องระวัง ในการหา งานออนไลน์ ในอินเตอร์เน็ต

คือ พวกหลอกลวง หลอกให้ทำงานผิดกฏหมาย โดยใช้เงินในการเชิญชวน บอกให้แชร์ ลิงค์ แล้วจะได้เงิน หรือ บอกให้ไปดูยูทูป แลกเงิน อันนั้นไม่ใช่ การทำงานออนไลน์ ที่แท้จริง แถมยังจะมาสร้าง ค่านิยม ให้คนคิดว่า งานออนไลน์ เท่ากับ หลอกลวง ไม่มีอยู่จริง งานดีๆ มีอยู่จริงค่ะ แต่ต้องแลกมาด้วยความรู้ ความสามารถพิเศษ ทักษะในการทำงานนั้นๆ และ ความพยายาม

น้องๆ สามารถดูได้เลยว่า พวกที่โพสหางานออนไลน์ แบบหลอกลวง หรือ Scam มักจะโพสด้วยเทคนิคเหล่านี้ อย่าไปหลงเชื่อนะ

  • บอกว่าได้เงินเยอะ จนเกินจริง
  • บอกว่างานง่าย แค่ทำโน้น ทำนี่ก็ได้เงิน
  • ถามข้อมูลส่วนตัวของน้องๆ ก่อนเป็นอันดับแรก
  • ขอให้จ่ายเงิน ค่านายหน้า ก่อน 
  • ถ้าน้องค้นหา ชื่อนายหน้าเหล่านั้นบนกูเกิ้ล จะพบว่าไม่มีตัวตน
  • ไม่มีเว็บไซต์ ที่เป็นทางการ
  • ไม่มีข้อมูลการติดต่อ ที่เป็นทางการและยืนยันตัวตน ได้
  • หรือ ถ้าน้องๆค้นหาคนเหล่านั้นเจอ น้องๆจะอ่านเจอแต่ รีวิวแย่ๆ 
  • หรือ ถ้าลองเซิ้ด หาในออนไลน์ หายังไงก็หาชื่อ บุคคลๆ นั้นไม่เจอ
  • อาจจะใช้ชื่อบุคคลมีชื่อเสียงมาอ้างๆ ทั้งๆที่เค้าไม่รู้ แค่โชว์รูปคู่ ที่ถ่ายด้วย
  • และเมื่อน้องๆ ถามรายละเอียด ของพวกเค้า พวกเค้าจะลังเล และตอบได้ไม่เต็มปาก

ถ้ามามุกเหล่านี้ ขอบอกเลยว่า นี่ไม่ใช่ งานออนไลน์ ที่จะได้เงินเป็นอาชีพได้ นะคะ อย่าไปหลงเชื่อ คนเหล่านี้

ทำงานออนไลน์

50 งานออนไลน์ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดโลก

งานออนไลน์

รวม 50 งานออนไลน์ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก โดยจะแบ่งเป็น ลักษณะงาน ที่มีประกาศรับสมัครงานจริง ตามเว็บไซต์หางานออนไลน์ต่างๆ ซึ่งงานแต่ละตำแหน่ง ก็จะใช้ ความรู้ความสามารถ ที่แตกต่างกันไป ถ้าน้องคิดว่า ตัวเอง มีทักษะในการทำงานเหล่านี้ โปรดใช้ Keyword เหล่านี้ ในการหางาน ในโลกออนไลน์ กันค่ะ

ป่ะ เราจะไม่ตกเทรน พี่จะพาเด็กไทยเก่งๆ ไป ทำงานในต่างประเทศ จาก ห้องทำงานของน้องที่ประเทศไทย นี่แหละค่ะ

1. งานแปล (Translation)

งานแปล เป็นหนึ่ง ใน งานออนไลน์ ยอดนิยม เพราะ เป็นงาน ที่เรียกว่า ใครที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ ก็สามารถทำงานแปล ได้ ซึ่ง ลักษณะของงานแปล จะเป็นการแปลจากต่างประเทศ ภาษาใดภาษาหนึ่ง มาเป็น ภาษาไทย ซึ่ง บริษัทส่วนใหญ่ ต้องการเจ้าของภาษา ในการงานแปล นั้นๆ ซึ่ง รูปแบบงานส่วนใหญ่ จะรับเป็นจ๊อบๆ ไป
การคิดเงินงานแปล :
นับเป็นจำนวนคำ ต่อจำนวนเงิน หรือ อาจจะจ่ายเป็นก้อนเลย

คำศัพท์ในการค้นหาหา งานแปลออนไลน์ คือ

Thai Translator/ English to Thai Translator/Thai to English Translation)

2. งานสร้างคอนเทนต์ (Content Creation)

งานสร้างเนื้อหา หรือ Content Creation มีหน้าที่คือ เราจะต้องเป็นคนคิด สิ่งที่เราจะ โพส ลงไปในช่องทางการทำการตลาด ต่างๆ ของบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น การสร้างเนื้อหา คอนเทนต์ ที่จะต้อง น่าดึงดูด และ สม่ำเสมอ สำหรับบัญชีโซเชียลมีเดียของ บริษัท จุดประสงค์ก็คือ เพื่อ เพิ่มการติดตาม (Follower) บนเพจ นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, TikTok ต่างๆ

ทักษะที่จำเป็น สำหรับงานตำแหน่งนี้ คือ

  • Social Media Marketing Strategy: การทำกลยุทธ์ทางการตลาดในสื่อโซเชี่ยวมีเดีย
  • Ad Formats : ทำรูปแบบเนื้อหาโฆษณา ได้
  • Display Ads Text Ads : ทำโฆษณาแบบรูปภาพ และ ข้อความได้
  • Writing Topics : มีทักษะในการเขียน หัวข้อ โฆษณา
  • Written Languages : ใช้ภาษาเขียนเป็น

3. งานเขียนคอนเทนต์ (Content Writing)

งานเขียนคอนเทนต์ คือ งานเขียน เนื้อหา ตามหัวข้อที่ บริษัทนั้นๆ ต้องการให้เราเขียน ซึ่ง หัวข้อ ในสิ่งที่บริษัท ต้องการให้เราเขียน จะแตกต่างกันไป ซึ่งบริษัทจะ ลิสต์หัวข้อ เรื่องที่เราจะต้องเขียนมาให้ และ ก็ให้เราเขียน บทความ จากหัวข้อนั้นๆ

ทักษะที่จำเป็นในการทำงานเขียนคอนเทนต์ คือ

  • มีความคิดสร้างสรรค์
  • มีทักษะการพิมพิ์ที่เร็ว (กดทดสอบ Typing Speed)
  • สามารถส่งงานได้ตามกำหนดเวลา
  • รักงานเขียน

4. งานผู้จัดการ การทำ การตลาด ใน Instagram (Instagram Marketing Manager)

ตำแหน่งงาน ผู้จัดการ การทำการตลาด ใน Instagram นี้คือ คนที่ดูแล และ วางแผน สร้าง แคมเปญ ทางการตลาดต่างๆ ในสื่อ Instagram เพื่อที่ ได้ยอดผู้ติดตาม และ กดไลค์ มากขึ้น ที่จะนำพา ไปสู่ การซื้อสินค้า ในอนาคต หรือ อาจจะเป็น การออกแบบโพส ใน Instagram ว่าจะต้องโพสด้วย เทคนิค อะไรบ้าง ที่จะทำให้ ผู้ติดตามมากยิ่งขึ้น

ทักษะที่จำเป็น ในการทำงานในตำแหน่งนี้ คือ

  • เข้าใจการทำการตลาด ด้วย Instagram
  • มีความคิดสร้างสรรค์ และคิดนอกกรอบ
  • เข้าใจภาษา โฆษณา
  • เข้าใจสินค้า และ บริการ เป็นอย่างดี

5. งานนักพัฒนา SQL (SQL Developer)

หน้าที่ ของงาน SQL Developer คือ งานที่น้องๆจะต้องมีความรู้ เฉพาะ ในการใช้งาน SQL โดยเฉพาะ โดยจะใช้ความรู้เหล่านี้ เป็นเครื่องมือ ในการพัฒนา สิ่งที่บริษัท ต้องการ ซึ่งถ้าน้องๆ มีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ จะเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ของบริษัท Start Up ทั้งหลาย ที่เค้ากำลังพัฒนาระบบ แพลตฟอร์ม ใหม่ๆ อยู่ และ ยังไม่ได้ออกมาสู่ตลาดโลก

ตัวอย่าง หน้าที่ และ ขอบเขตงานที่ต้องใช้ ความรู้ด้าน SQL

  •  สร้างตารางโดยใช้แผนภาพความสัมพันธ์เอนทิตี
  • สร้างตารางด้วยคำสั่ง SQL CREATE
  • ป้อนข้อมูลด้วย SQL INSERT
  • อัปเดตชุดข้อมูลด้วย SQL UPDATE
  •  แบบสอบถามฐานข้อมูลด้วย SQL SELECT

เป็นต้น ถ้าใครไม่รู้ว่างานนี้คืออะไร อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

6. งานตัวแทนคอลเซ็นเตอร์ (Call Center Representative)

ลักษณะงาน คือ เราจะต้องโทรศัพท์ ไปหาลูกค้า (B2C: Business to Customer)  หรือ คู่ค้า (B2B : Business to Business) โดยจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน แล้วแต่ว่า บริษัท จ้างคุณให้โทรไปหา ลูกค้า หรือ คู่ค้าเพื่ออะไร
ถ้าโทรไปหา ลูกค้า: จะมีจุดประสงค์เพื่อ ขายสินค้า หรือ บริการ
ถ้าโทรไปหา คู่ค้า: เพื่อสอบถามราคาสินค้า การจัดส่ง และ ข้อมูลต่างๆ ในเชิงธุรกิจ

ทักษะที่จะต้องมี ในการทำงาน งานตัวแทนคอลเซ็นเตอร์ นี้คือ

  • มีความมั่นใจ ในการพูดคุยทางโทรศัพท์
  • สามารถพิมพิ์ได้เร็ว เพื่อ เก็บข้อมูล ของแต่ละสาย
  • มีความอดทนสูง

7. งานใส่ข้อมูล (Data Entry)

งานที่จะต้องพิมพิ์เร็ว และ สามารถใส่ข้อมูลเหล่านั้น ลงไปในระบบ ที่บริษัทต้องการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งโดยมากแล้ว บริษัทส่วนใหญ่ จะใช้ Excel ในการจัดการข้อมูลส่วนกลาง ถ้าคุณมีความสามารถ ในการใช้ Excel ก็ควรระบุ ไปใน เอกสารสมัครงานของคุณด้วย

8. งานพิสูจน์อักษร (Proofreading)

คืองาน ที่เราทำหน้าที่ ตรวจการสะกดคำ ความถูกต้องในการใช้ภาษา และ สำนวน ต่างๆ ซึ่งหลายๆครั้ง เป็นงานที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศอีกที มาเป็นภาษาไทยแล้ว แต่ว่า อาจจะต้องการ คนไทยที่พูดภาษาไทยเป็นภาษาแม่ จริงๆ ในการตรวจสอบ ความถูกต้อง เวลาอ่านแล้ว มันเป็นธรรมชาติ ไหม เป็นต้น

9. งานแต่งรูป (Photo Editing)

งานแต่งรูป เป็นงานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสมัยนี้ แทบทุก Social Media จะมีการใช้รูปภาพ ในการขายสินค้า และ บริการ โดยเฉพาะการทำการตลาด ถ้าใครมีความรู้ ความสามารถพิเศษ ในการใช้ โปรแกรมในการแต่งรูป มีความรู้ในการลบพื้นหลัง รีทัช ต่างๆ มี งานออนไลน์ มากมาย รอ น้องๆ อยู่เลยค่ะ

10. งานโปรแกรมนักพัฒนา Phython (Python Developer)

งาน Phython Developing จริงๆแล้ว มักจะไม่ได้มาเดี่่ยวๆ คนที่จะทำงานนี้ได้ จะต้องมีความรู้ ด้านงานอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น

  • มีความชำนาญในภาษา Phython + React
  • Javascript (React หรือ Angular)
  • HTML, CSS
  • ใช้ linux ได้
  • ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์, ติดตั้งแพ็คเกจ
  • เชลล์สคริปต์
  • คุ้นเคยกับ Docker,Kubernetes และ Terraform

ซึ่ง บอกแล้วว่ามันไม่ได้มาเดี่่ยวๆ แต่ เงินเดือน ของนักพัฒนาPhython ขนาด Freelancer บอกเลยว่า ไม่ธรรมดา 2000 – 3000 ดอลล่า ต่อเดือน แน่นอน แถมถ้าเค้าชอบงานเรา จะเชิญไปทำงานประจำด้วยน้า

11. งานการตลาด อีเมล (Email Marketing)

งานการตลาด อีเมล ตรงๆตัวคือ ทำการตลาดในอีเมล หน้าที่หลักๆ ที่สำคัญสำหรับงานนี้เลยคือ จะต้องสามารถใช้ โปรแกรม ในการทำการตลาด ทางอีเมลได้ ซึ่ง โปรแกรมที่นิยม อย่าง Mailchimp, Aweber เป็นต้น น้องๆคนไหน อยาก หางานเสริมออนไลน์ ทำที่บ้าน ก็ควรที่จะ เรียนรู้ โปรแกรมเหล่านี้ ไว้ด้วย

ทักษะ ใน การทำการตลาดด้วยอีเมล ที่สำคัญ

  • ทักษะการเขียน แบบ Copywriting (copywriting คืออะไร)
  • ทักษะการออกแบบดีไซน์ รูปภาพ

12. งานพากย์เสียง (Voice Over Artist)

งานพากย์เสียง คือ มีเสียงต้นแบบภาษาต่างชาติ มาให้ แล้ว ให้เราพากย์เสียง เหล่านั้นออกมาเป็นภาษาไทย ซึ่งลักษณะงาน บางครั้งจะมีการกำหนด ว่าบริษัท อยากได้เสียงพากย์ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ซึ่งเราจะต้องมีความสามารถ ในการทำเสียงในแนวต่างๆ เพื่อตอบกับงาน ของในแต่ละ ธุรกิจ

13. งานทำการตลาดออไลน์ องค์รวม (Search Engine Marketing Specialist)

งาน Search Engine Marketing หรือ SEM เป็นคนที่จะช่วยพัฒนาเว็บไซต์ ให้มีรายได้ที่มากขึน เป็นคนคิดกลยุทธ์ ต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมทางเว็บไซต์ และ สร้างโอกาสในการขายสินค้า หรือ บริการเหล่านั้น เป็นวิธีการทำการตลาดอย่างหนึ่ง ที่่ แทบทุกบริษัท ต้องการคนที่สามารถทำงานในตำแหน่งนี้ได้ น้องๆจะต้องรู้จักการใช้เครื่องมือ ในการทำการตลาด แบบ SEM ด้วย เช่น Semrush / Google Ads เป็นต้น

14. งานติวเตอร์สอนภาษาออนไลน์ (Language Tutor)

สำหรับน้องๆ สายภาษา ที่ไม่เป็นเป็นพวก Tech Savvy หรือคนที่ เก่งด้านเทคโนโลยี ในทุกขนาน นั้น พี่แนะนำให้ลองทำงานติวเตอร์สอนภาษาออนไลน์ ดูค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแพลตฟอร์ม ต่างๆ มากมาย ที่ให้น้องๆ สามารถสร้างบัญชี แล้ว ก็สมัครสอนภาษาออนไลน์ ได้ง่ายๆ เช่น italki หรือ Preply

15. งานทำบัญชี แบบลงบัญชี (Bookkeeping)

งานทำบัญชีแบบลงบัญชี หรือ Bookkeeping เป็นการทำบัญชีแบบจดบันทึกข้อมูลลงไป เป็นการทำบัญชีสรุปรายรับ รายจ่าย และรายงานผลเป็นระยะๆ ด้วยโปรแกรมซอฟแวร์ ต่างๆ ตามแต่ที่ลูกค้าสะดวกใช้ เช่น

ซึ่งโปรแกรมทางบัญชีเหล่านี้ เค้ามีคอร์สอบรม คำแนะนำ การเรียนการสอน และ หน่วยงาน ที่ให้ความช่วยเหลือ ในการใช้โปรแกรม น้องๆคนไหน ที่สนใจ ทำงานออนไลน์ ด้านการเงิน การบัญชี ก็ควรจะลองหาเวลา ไปศึกษา โปรแกรมเหล่านี้ดู นะคะ

16. งานตัดต่อวีดีโอ ยูทูป (Youtube Video Editing)

งานตัดต่อวีดีโอลงยูทูป เป็นงานสำหรับคนที่ มีทักษะ และ ความสามารถในการ ตัดต่อวีดีโอ ด้วยโปรแกรมต่างๆ น้องจะต้องมีโปรแกรมเหล่านั้น อยู่ในคอมพิวเตอร์ ของตัวเอง แล้ว และรู้ว่าจะใช้งานอย่างไร ซึ่ง งานตัดต่อวีดีโอ นี้ ขอบอกเลยว่า เป็นทีต้องการมากๆ เพราะ นักยูทูปเบอร์

17. งานแปลซับไตเติ้ล (Subtitle Translator)

เป็น การแปล ที่เราจะต้องฟังวีดีโอ ต่างๆ แล้วก็ถอดออกมาว่า เค้าพูดว่าอะไรในวีดีโอ และก็ถอดคำพูดเหล่านั้น ออกมาเป็นตัวหนังสือ ซึ่งเป็นงานที่จะต้องใช้ทักษะการพิมพิ์ ที่รวดเร็ว เพราะบางครั้ง น้องๆ อาจจะต้องนั่งฟัง วีดีโอ ร่วมชั่วโมง ฟังไปด้วยพิมพิ์ไปด้วย ยิ่งพิมพิ์ได้เร็ว ก็จะทำให้ทำงานเสร็จได้เร็วขึ้น

18. งานผู้ช่วยนักวิจัย (Research Assistant)

งานผู้ช่วยนักวิจัย นั้นเป็นงานที่เรา จะช่วยนักวิจัยเหล่านั้น ค้นคว้า หาข้อมูล ต่างๆ เพื่อที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำงานต่อ ซึ่ง งานนี้ มีความจำเป็น ที่จะต้อง ใช้โปรแกรม ในการจัดการข้อมูล ส่วนกลาง ที่นิยมใช้ นั่นก็คือ Microsoft Excel เป็นต้น

19. งานผู้จัดการดูแลโครงการ (Project Manager)

ในความหมายกว้างๆ งาน ผู้จัดการโครงการ  มีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผน จัดระเบียบ และ ควบคุมความสมบูรณ์ของโครงการนั้นๆ ในขณะเดียวกันก็ดูแลให้โครงการเหล่านี้ตรงเวลา อยู่ในงบประมาณ ที่วางแผนไว้ด้วย

20. งานผู้ประสานงานขาย (Sales Coordinator)

ความรับผิดชอบของ ผู้ประสานงานขาย ได้แก่ การติดตามโอกาสในการขาย การประสานงานใบเสนอราคา ช่วยเหลือในการดำเนินการตามคำสั่ง และช่วยเหลือในการจัดการบัญชีลูกค้า ผู้ประสานงานการขายยังรับผิดชอบในการตรวจสอบการขาย และ ประสิทธิภาพของทีมขายตลอดจนบันทึกข้อมูลการขาย

21. งานการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM Administrator)

Customer Relationship Management CRM คือ งานที่เราจะต้อง จัดระบบติดตามลูกค้า ตั้งแต่ ฐานข้อมูลของลูกค้า ถ่ายโอนข้อมูลเหล่านั้น เพื่อการทำการตลาด ซึ่งจะต้อง เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก หรือ บริษัทใหญ่ ก็ล้วนแล้ว ต้องการคนที่เข้ามา ติดตามอัพเดท ข้อมูลลูกค้าทั้งสิ้น

ทักษะ และ โปรแกรม ที่ควรรู้จัก ในการสมัครงานตำแหน่งนี้คือ

22. งานตัดเสียง (Audio Editing)

งานตัดเสียง เป็นงานที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ที่ต้องอาศัยเครื่องมือ เฉพาะ โปรแกรมเฉพาะ ในการตัดเสียง ให้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น ลูกค้า ต้องการทำ Podcast หรือ Youtube Video แล้วต้องการให้เรา ตัดแก้ไข วางเสียงให้ตรงกับภาพ ในวีดีโอ ซึ่งงานนี้ ถ้าใครได้ภาษาอังกฤษ และ พิมพิ์เร็ว รู้จักการใช้โปรแกรม ตัดเสียงต่างๆ จะช่วยทำให้น้องๆ หางานได้ง่าย ขึ้น ค่ะ

23. งานสร้างโลโก้ (Creating Logo)

งานขายโลโก้ ออนไลน์ คือ บริการ ที่เรามอบให้กับลูกค้า งานนี้อาจจะพัฒนาเป็น ธุรกิจได้ สำหรับน้องๆ ที่มีความสามารถในการวาดรูป ในคอมพิวเตอร์ ด้วยโปรแกรมต่างๆ น้องๆสามารถ สร้างโปรไฟล์ ของตัวเองขึ้นมา และ ขายโลโก้ ของน้องๆ หรือ สามารถเซิ้ดหา คนที่ต้องการ ให้เราทำโลโก้ให้ ได้ ในเว็บไซต์ หางานออนไลน์ ที่พี่แจ้งไว้ด้านบน เลยค่ะ หรือ แพลตฟอร์ม อื่นๆ ของไทยก็ได้นะ

24. งานพัฒนาเกมส์ (Game Developer)

เป็นงานนักพัฒนาเกมส์ เป็นงานที่ ต้องใช้ความสามารถหลายๆ อย่าง ทั้ง ความรู้ในการ Coding ในการสร้างเกมส์ขึ้นมา ลักษณะงาน เป็นงานที่ต้องใช้ การวางแผน ออกแบบ เกมส์ สำหรับ ผลิตวิดีโอเกม สำหรับคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือ เครื่องเล่นเกม ต่างๆ

ทักษะ ความสามารถ ในการทำงาน พัฒนาเกมส์ คือ

  • Game Art งานอาร์ท งานวาดรูป ในเกมส์
  • มีความรู้ด้าน Texturing
  • เข้าใจโปรแกรมสร้างเกมส์ โปรกแกรมUnity
  • มีความรู้เรื่อง วีดีโอเกมส์
  • 3D Modeling มีความรู้ในการสร้าง โมเดล3มิติ

25. งาน (Interior Designer)

งานตกแต่งภายใน เป็นอีกหนึ่งงานที่ ทำออนไลน์ ก็ได้ นะ โดยลูกค้าจะสั่งงาน มาว่าต้องการ อะไรบ้าง มีขนาดพื้นที่เท่าไหร่ อยากให้ออกแบบ ออกมาแนวไหน และ ต้องการให้งานแสดงผลด้วยโปรแกรม อะไร สามารถทำงานได้จากช่องทางออนไลน์ เลยค่ะ

26. งานพัฒนาเว็บไซต์ Shopify (Shopify Website Developer)

คือ งานพัฒนาเว็บไซต์ eCommerce รูปแบบหนึ่ง ที่จะต้องใช้ความรู้เฉพาะ น้องๆ จะต้องคุ้นเคย กับ การพัฒนาร้านค้า ผ่าน Shopify ซึ่งน้องๆ สามารถหาคอร์สเรียนรู้ การพัฒนาเว็บไซต์ ด้วย Shopify ได้ จากหลากหลายช่องทาง
อ่านต่อ เกี่ยวกับ Shopify

27. งานผู้ช่วยส่วนตัว (Personal Assistant)

งานผู้ช่วยส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งงาน ที่ใครๆ ก็ทำได้ ต่อให้น้องไม่ได้มี ทักษะหรือสกิล การใช้โปรแกรมอะไรเป็น พิเศษ ก็ทำได้ ซึ่งลักษณะงาน ก็ตามชื่อเลย คือ ผู้ช่วยส่วนตัว แต่ละคนก็จะมี งานให้เราทำไม่เหมือนกัน บางคน อาจจะขอให้เราเข้าไปใน อีเมล ของเค้าแล้วช่วย ลบอีเมล ขยะ ให้หน่อย หรือ บางคน ต้องการให้เราช่วย ใส่ข้อมูล ว่าแต่ละวันต้องประชุม อะไร บ้าง เป็นต้น

28. งานพัฒนาแอปพลิเคชั่น ใน โทรศัพท์ (Mobile App Developer)

งานพัฒนาแอปพลิเคชั่น ในโทรศัพท์ งานนี้ค่อนข้างที่จะต้องใช้ ความรู้เฉพาะ และ เทคนิคพิเศษ ในการทำงาน แต่เป็นงานที่ เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก แถมรายได้ดีด้วยนะคะ และ งานเหล่านี้ น้องๆอาจจะ เจอแจ๊คพอต เข้าไปร่วมงานกับ บริษัท ชั้นนำได้

ทักษะที่ต้องใช้ ในการทำงานด้านนี้

  • Swift (Programming Language)
  • Android Development
  • iOS Development
  • Objective-C
  • Xcode
  • JavaScript
  • Java

29. งานนักออกแบบ (UI/UX Designer)

โดยทั่วไปแล้ว งานออกแบบ UI และ UX มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวม ค้นคว้า ตรวจสอบ และ ประเมินความต้องการของผู้ใช้ สิ่งสำคัญสูงสุด ของงานนี้ คือ การมอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้ รู้สึกชอบ ในแอปพลิเคชั่น ของเรา ที่ใช้งานง่าย สะดวก สวยทั้งรูปร่างหน้าตา และ ฟังก์ชั่น การใช้งาน เป็นต้น

30. งานดีไซน์เนอร์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Designer)

งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือ งานที่เราจะต้องวางแผน ออกแบบผลิตภัณ์ หรือ บริการ ให้กับบริษัท สามารถ เป็น ผลิตภัณฑ์ ที่จับต้องได้ หรือ เป็นผลิตภัฑ์ดิจิตอล ก็ได้ ซึ่งเป็นงานที่มีหลากรูปแบบ น้องๆ สามารถนำ ความสนใจ ของตัวเองมาเปลี่ยนให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในด้านนั้นๆ และ มาออกแบบ สินค้า หรือ บริการ ให้กับ บริษัทต่างๆได้

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้อง เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านการทำเพลง ทำดนตรี น้องก็สามารถ ทำงานพัฒนา ผลิตภัณฑ์ เพลงได้

31. งานเทรนเนอร์ ส่วนตัว ( Personal Trainer)

งานเทรนเนอร์ส่วนตัว เดี๋ยวนี้ สามารถ ทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แล้ว ยิ่ง เพราะมี Covid เข้ามา การเทรนออนไลน์ จึงเป็นสิ่งที่ เข้าใจได้ แถมเป็นที่ต้องการอีก ซึ่งแน่นอน ก็จะเป็นการออกกำลังกาย จากที่บ้าน ผ่านคลิปวีดีโอ ต่างๆ รวมไปถึง อีบุ๊ค ไฟล์คำแนะนำ ในการปฏิบัติตัว ว่า เราจะต้องทานอะไรบ้าง ใน 1 อาทิตย์ ซึ่ง อาจจะต้อง อาศัย นักเรียน คอยจดรายละเอียด ส่งการบ้าน อาหารที่ทานเข้าไป ให้ เทรนเนอร์ด้วย

32. งานนายหน้า จัดหางานออนไลน์ (Online Recruiter)

งานนายหน้า จัดหางานออนไลน์ ก็คือ พวกที่ทำหน้าที่ในการ Recruit หรือ สัมภาษณ์งาน คนเข้าไปทำงานอีกที หลายๆบริษัท ตั้งแต่ บริษัทเล็กๆ ไปถึง บริษัท ขนาดกลาง อาจจะมีการ ใช้บริการ Freelancer ในการช่วยหา พนักงานให้กับบริษัท ของพวกเค้า หน้าที่ของ งานหนายหน้า จัดหางาน ก็คือ ต้องติดต่อ คนที่มีทักษะความสามารถ ในการทำงาน ตามช่องทางต่างๆ เช่น LinkedIn แล้วก็ ขอสัมภาษณ์งาน อาจจะมีให้ทำ ทักษะง่ายๆ ในการทดสอบความสามารถ เราก็ต้องรวบรวม ข้อมูล เหล่านั้น ไปให้กับบริษัท ในการตัดสินใจอีกที

33. งานออกแบบเว็บไซต์ (Website Designer)

งานออกแบบเว็บไซตื จะ ค่อนข้าง เทคนิค ต้องมีความรู้ในการทำเว็บไซต์ มาก่อน

34. งานถอดความ (Transcriptionist)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

35. งานรีวิวผลิตภัณฑ์ (Product Reviews)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

36. งานแอดมินไลน์ (Line Admin)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

37. งานดูแลคอมเมนต์ ในสื่อต่างๆ (Comment Moderator)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

38. งาน (Google Ads)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

39. งานวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysist)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

40. งานผู้จัดการฝ่ายบุคคล (HR Manager)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

41. งานเขียน ผี (Ghost Writer)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

42. งาน (Finance Expert)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

43. งาน (Online Recruiter)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

44. งาน (Website Designer)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

45. งาน (Transcriptionist)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

46. งาน (Product Reviews)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

47. งาน (Line Admin)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

48. งาน (Comment Moderator)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

49. งาน (Google Ads)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

50. งาน (Data Analysist)

งานเขียน จะ แตกต่างจากงานแปล ตรงที่ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเขียน และ สร้างคอนเทนต์ ต่างๆ เป็น งานออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่ชอบเขียน  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนออกมาให้น่าอ่าน และ ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ด้วยว่าเรากำลังสื่ออะไร โดยหัวข้อ งานเขียนส่วนใหญ่ บริษัท หรือ นายจ้าง จะเป็นคนกำหนดมาให้เรา ว่า จะต้องเขียนอะไร บางครั้งอาจจะมี การให้ส่งตัวอย่างงานเขียน ที่ผ่านมาของเรา ให้เขาดู ว่าเป็นแนวที่เค้าต้องการหรือ ไม่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะน้องๆ กับ ลิสต์ 50 งานออนไลน์ ที่พี่นำมาแชร์ ในวันนี้ พี่หวังว่า โพสของพี่ จะทำให้น้องๆ ไปหา ทักษะ และ สกิล ที่ตัวเองชอบ เพิ่มเติมความรู้ ความสามารถของตัวเอง และได้ งานออนไลน์ ดีๆ ทำนะคะ

ถ้าต้องการจะแบ่งปัน เรื่องราว หรือ ประสบการณ์การทำงานของน้อง เพื่อเป็นประโยชน์ ให้กับคนอื่นๆ สามารถติดต่อพี่มาได้ เพื่อพี่จะนำประสบการณ์ของน้อง มาแชร์ให้กับเพื่อนๆ นะคะ สู้ๆค่ะทุกคน

อีก 20 ตำแหน่งกำลังตามมา